วารสารมนุษยสังคมศาสตร์
https://he04.tci-thaijo.org/index.php/MSKJ
<p><strong>วัตถุประสงค์และขอบเขตของวารสาร</strong></p> <p>วารสารมนุษยสังคมศาสตร์มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ที่นำเสนอองค์ความรู้ ข้อค้นพบ ข้อเสนอแนะที่เป็นความคิดริเริ่มและนวัตกรรม นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ในสาขาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การศึกษา การบริหารธุรกิจ ภาษา ศิลปะ ดนตรี การแสดง วัฒนธรรม และสหวิทยาการอื่น ๆ เป็นต้น</p> <p><strong> </strong></p> <p><strong>กำหนดการเผยแพร่</strong></p> <p>วารสารมนุษยสังคมศาสตร์เริ่มจัดทำและตีพิมพ์วารสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2566 โดยกำหนดการเผยแพร่ปีละ 4 ฉบับ ประกอบด้วย</p> <p> ฉบับที่ 1 มกราคม – เมษายน</p> <p> ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - มิถุนายน</p> <p> ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน</p> <p> ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม</p>
th-TH
วารสารมนุษยสังคมศาสตร์
-
การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนวิชาการเขียนแบบ ทัศนียวิทยา นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) ปีที่ 1 แผนกวิชาการออกแบบ
https://he04.tci-thaijo.org/index.php/MSKJ/article/view/3154
<p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา ประเมินคุณภาพ หาประสิทธิภาพ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนและประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน วิชาการเขียนแบบทัศนียวิทยา ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปี 1 แผนกวิชาการออกแบบ ประเภทวิชาศิลปกรรม ชั้นปีที่1 ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาการเขียนแบบทัศนียวิทยา ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงซึ่งเป็นกลุ่มที่ผู้วิจัยทำการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัยประกอบด้วย แบบประเมินคุณภาพเอกสารประกอบการเรียน สำหรับผู้เชี่ยวชาญและครูผู้สอน เอกสารประกอบการเรียน จำนวน 6 หน่วยการเรียน แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน 30 ข้อที่ผ่านการประเมินคุณภาพโดยมีค่าความเชื่อมั่น (Kr-20) เท่ากับ 0.620 ค่าดัชนีความยากง่าย (D) เท่ากับ 0.58 ดัชนีค่าอำนาจจำแนก (V) เท่ากับ 0.45 และแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียนที่มีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นของครอนบาค (a) เท่ากับ 0.859</p> <p>วิธีการวิจัยดำเนินการโดยการนำเอกสารประกอบการเรียน วิชาการเขียนแบบทัศนียวิทยา ที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างโดยก่อนเรียนผู้วิจัยได้ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในระหว่างเรียนให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนของแต่ละหน่วย และเมื่อเรียนจบทุกหน่วยเรียนแล้ว ผู้วิจัยก็ให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอีกครั้ง คะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของแต่ละหน่วย และคะแนนจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนี้ได้นำมาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพ และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และในสัปดาห์สุดท้ายของการจัดการเรียน การสอนผู้วิจัยได้ให้นักเรียนประเมินความพึงพอใจที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน ข้อมูลที่ได้จากการตอบแบบสอบถามของนักเรียนได้นำมาวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียนที่พัฒนาขึ้น ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้</p> <ol> <li>คุณภาพของเอกสารประกอบการเรียนวิชาการเขียนแบบทัศนียวิทยาตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญโดยรวมมีคุณภาพอยู่ใน ระดับมากที่สุด ( = 4.56,S.D=0.57) เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้</li> <li>คุณภาพของเอกสารประกอบการเรียนวิชาการเขียนแบบทัศนียวิทยาตามความคิดเห็นของครูผู้สอนโดยรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54,S.D.=0.50) เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้</li> <li>เอกสารประกอบการเรียนวิชาการเขียนแบบทัศนียวิทยา มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.37/85.56 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ 80/80</li> <li>เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบ การเรียน วิชาการเขียนแบบทัศนียวิทยาโดยการทดสอบค่าที (t-test Dependent) พบว่าคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้</li> <li>ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน วิชาการเขียนแบบทัศนียวิทยา โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.48,S.D.=0.65) เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้</li> </ol>
ไกรรัช เทศมี
สุวรรณา สุ่มเนียม
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยสังคมศาสตร์
2025-12-26
2025-12-26
3 3
1
12
-
นิทานผีลาว:กลวิธีการเล่าเรื่องผีในสื่ออนไลน์ กรณีศึกษาช่องยูทูป JulyJulee
https://he04.tci-thaijo.org/index.php/MSKJ/article/view/3290
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบของเรื่องเล่านิทานผีลาว และกลวิธีการเล่าเรื่องนิทานผีลาว ซึ่งนิทานผีลาวมีความน่าสนใจและมีการเผยแพร่กันอยู่ทั่วไปน่าจะเป็นการเล่าปากต่อปาก การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรและการเผยแพร่ทางเว็บไซต์ต่างๆ เช่น YOUTUBE ช่องนิทานลาว JulyJulee (ນິທານລາວ JulyJulee) ดังนั้นนิทานผีลาวแต่ละเรื่องก็แสดงให้ทราบถึงสภาพสังคม จารีตประเพณี วิถีชีวิต ความเชื่อ ความเชื่อถือของบุคคลแต่ละยุคสมัย และให้คติเตือนใจให้คุณค่าทำให้ทราบเรื่องราวมากขึ้น บางเรื่องก็อิงประวัติศาสตร์ให้เกร็ดความรู้ นิทานผีลาวก็มีทั้งผีดีและผีร้าย ผีดีเป็นผีที่ปกติและจะไม่ทำร้ายมนุษย์แล้วยังส่งเสริมไปในทางที่ดีทำให้มนุษย์นั้นมีความเคารพนับถือ ส่วนผีร้ายมีลักษณะที่ไม่ดีสร้างความหวาดกลัวและสร้างความเดือดร้อนให้แก่มนุษย์</p> <p>ผลการศึกษาพบได้ 2 ประเด็น ดังนี้ 1) องค์ประกอบของเรื่องเล่านิทานผีลาว ไม่ว่าจะเป็น ชื่อเรื่อง เนื้อเรื่อง โครงเรื่อง ฉาก ตัวละคร บทสรุป 2) กลวิธีการเล่าเรื่องในนิทานผีลาวที่นำเสนอผ่านสื่อลาวในปัจจุบัน</p>
ศิริกานต์ดา สันโดด
ราชันย์ นิลวรรณาภา
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยสังคมศาสตร์
2025-12-26
2025-12-26
3 3
23
32
-
การยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในภาครัฐไทยด้วยเครื่องมือ ITA : ศึกษาภาพรวมผลการประเมินระดับประเทศ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – 2567
https://he04.tci-thaijo.org/index.php/MSKJ/article/view/3337
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาพรวมผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ในระดับประเทศช่วงปีงบประมาณ <br />พ.ศ. 2563 – 2567 โดย ITA เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมธรรมาภิบาลและป้องกันการทุจริตของภาครัฐ <br />การวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า คะแนนเฉลี่ยรวมของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 67.90 คะแนน ในปี 2563 <br />เป็น 93.05 คะแนน ในปี 2567 สะท้อนถึงพัฒนาการด้านคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการประเมิน ITA ประกอบด้วยข้อมูลจาก 3 ส่วน ได้แก่ แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก และแบบวัดการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ ผลการประเมินส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ พัฒนาแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ และเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นระบบมากขึ้น ขณะเดียวกัน ประชาชนมีบทบาทเพิ่มขึ้นในการตรวจสอบและติดตามการทำงานของรัฐดังนั้น ITA ไม่เพียงเป็นเครื่องมือประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของรัฐและส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้มากยิ่งขึ้น</p>
กมลสัณห์ ศรียารัณย
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารมนุษยสังคมศาสตร์
2025-12-26
2025-12-26
3 3
13
22