ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการปฏิบัติด้านความปลอดภัยในการป้องกันการสัมผัสตะกั่วในเด็กของผู้ทำมาดอวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้ และพฤติกรรมปฏิบัติด้านความปลอดภัยในการป้องกันการสัมผัสตะกั่วในเด็ก และ 2) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้และพฤติกรรมปฏิบัติด้านความปลอดภัยในการป้องกันการสัมผัสตะกั่วในเด็กของผู้ทำมาดอวน จังหวัด สุราษฎร์ธานี กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาจำนวนทั้งหมด 145 คน เป็นผู้ปกครองที่ทำมาดอวนและมีสมาชิกในครัวเรือนเป็นเด็กแรกเกิด ถึง 5 ปี ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน มีค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC ของแบบสอบถามงานวิจัยนี้เท่ากับ 0.98 ตรวจสอบความเที่ยงด้วยค่าสัมประสิทธิ์ Cronbach alpha แบบสอบถามเกี่ยวกับความรู้เท่ากับ 0.841 และแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมเท่ากับ 0.740 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา สถิติไคสแควร์ และสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์ ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความรู้ด้านความปลอดภัยต่อการรับสัมผัสตะกั่วในเด็กของผู้ที่ทำมาดอวนระดับต่ำ (ร้อยละ 37.9) และมีพฤติกรรมการปฏิบัติด้านความปลอดภัยในการป้องกันการสัมผัสตะกั่วในเด็กอยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 35.2) ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า พฤติกรรมการปฏิบัติด้านความปลอดภัยในการป้องกันการสัมผัสตะกั่วในเด็กมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กับรายได้ของครอบครัว (p-value=0.031) และความรู้ด้านความปลอดภัยในการป้องกันการสัมผัสตะกั่วในเด็ก (p-value< 0.01) การวิจัยครั้งนี้เสนอแนะการส่งเสริมและให้ความรู้ด้านความปลอดภัยต่อการรับสัมผัสตะกั่วในเด็กของผู้ที่ทำอาชีพมาดอวนที่ถูกต้องแก่ผู้ที่ทำมาดอวนหรือต้องสัมผัสตะกั่วที่มีเด็กแรกเกิดถึง 5 ปีอาศัยอยู่ในบ้าน และเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติเพื่อลดการสัมผัสตะกั่วในเด็กแรกเกิดถึง 5 ปี
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช (Office of Disease Prevention and Control Region 11 Nakhon Sri Thammarat)
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช และ บุคคลากรท่านอื่น ๆในสำนักงานฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
ห้ามนำข้อความทั้งหมด หรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสาร
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช. ระบบคลังข้อมูลสุขภาพ Health Data Center (HDC) [อินเทอร์เน็ต]. นครศรีธรรมราช: สคร.11; 2566 [สืบค้นเมื่อ 29 มีนาคม 2567] .แหล่งข้อมูล: https://hdc.moph.go.th/center/public/standard-report-detail/ 3b4f3df4d17920d6ab4e94e57bf90a0f
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แผนงานด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) [อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2565. [สืบค้นเมื่อ 30 มีนาคม 2567]. แหล่งข้อมูล: https://ddc.moph.go.th/ uploads/ckeditor2//files/Pinkbook 2566 Ebook.pdf
กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม. คู่มือการเฝ้าระวังและป้องกันโรคพิษตะกั่วในกลุ่มเด็ก. ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2564.
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช. รายงานผลการดำเนินงานโครงการ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคจากตะกั่วหรือสารประกอบของตะกั่วในเด็กกลุ่มเสี่ยงอายุ 0 – 5 ปี เขตสุขภาพที่ 11 ปีงบประมาณ 2566. [การนำเสนอในการประชุม] การประชุมชี้แจงภาพรวม การดำเนินงานด้านโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม; 2567 พฤศจิกายน 14; นครศรีธรรมราช, ประเทศไทย. นครศรีธรรมราช: สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช; 2567.
กลุ่มโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช. พื้นที่เสี่ยงต่อโรคจากตะกั่วหรือสารประกอบจากตะกั่ว อาชีพมาดอวน เขตสุขภาพที่ 11. นครศรีธรรมราช: สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช; 2567.
จักรี ศรีแสง, อุไรวรรณ อินทร์ม่วง. ปัจจัยเสี่ยงที่มีความสัมพันธ์กับระดับตะกั่วในเลือดของเด็กอายุ. ต่ำกว่า 5 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในชุมชนที่มีการประกอบอาชีพคัดแยกซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์: ตำบลแดงใหญ่ อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ [อินเทอร์เน็ต]. วารสารควบคุมโรค. 2556 [สืบค้นเมื่อ 20 มี.ค. 2567];39(4):289–96. แหล่งข้อมูล: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/DCJ/article/view/154995
พรทิวา ถาวงค์กลาง, พรนภา ศุกรเวทย์ศิริ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการสัมผัสตะกั่วของผู้ประกอบอาชีพคัดแยกซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ในพื้นที่ตำบลโคกสะอาด อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ [อินเทอร์เน็ต]. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น. 2564 [สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2567];28(1):25-32. แหล่งข้อมูล: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/ jdpc7kk/article/view/243225
วารุณี พันธ์วงศ์. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับปริมาณสารตะกั่วในเลือด: กรณีศึกษาโรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์ จังหวัดสมุทรปราการ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต] [อินเทอร์เน็ต]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ; 2558 [สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2567]. แหล่งข้อมูล: http://journalgrad. ssru.ac.th/index.php/5-01/article/view/137
สุทัศน์ เสียมไหม, ชวนากร ศรีปรางค์, พยงค์ เทพอักษร, เอกนรินทร์ ลัดเลีย. ปัจจัยทำนายความเสี่ยงต่อสุขภาพของการสัมผัสตะกั่วจากการทำงานของชายชาวเลเกาะบูโหลน จังหวัดสตูล [อินเทอร์เน็ต].วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้. 2564 [สืบค้นเมื่อ 25 มีนาคม 2567];8(2):93-109. แหล่งข้อมูล: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/scnet/article/ view/246956
โสภิดา เภาเจริญ. ปัจจัยที่สัมพันธ์กับระดับตะกั่วในเลือดกลุ่มเด็กอายุ 0-5 ปี ในเขตสุขภาพที่ 6 [อินเทอร์เน็ต]. วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร. 2 พิษณุโลก. 2564 [สืบค้นเมื่อ 25 มีนาคม 2567];8(3):1. แหล่งข้อมูล: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/dpcphs/article/view/ 253399
หทัยรัตน์ เมธนาวิน, ฉันทนา จันทวงศ์, ยุวดี ลีลัคนาวีระ. ผลของโปรแกรมสุขศึกษาร่วมกับการบริหารจัดการทรัพยากรต่อความรู้ เจตคติ พฤติกรรมป้องกันการสัมผัสตะกั่ว และระดับตะกั่วในเลือด ของพนักงานโรงงานแบตเตอรี่ [อินเทอร์เน็ต]. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา. 2559 [สืบค้นเมื่อ 25 มีนาคม 2567];11(2):76-84. แหล่งข้อมูล: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/phjbuu/ article/view/72700