ความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

Main Article Content

สุขสันต์ มรรคาเขต
ธนกร ศรีสุวรรณ
รุ่งพนา ยุทธวรวิทย์

บทคัดย่อ

        การวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ระหว่าง เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ สถานภาพ ความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ประชากรในการศึกษาคือผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคความดันโลหิตสูง โดยมีการสุ่มอย่างเป็นระบบ จำนวน 312 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม จำนวน 3 ส่วน ประกอบด้วย 1) ข้อมูลส่วนบุคคล 2) ปัจจัยความรอบรู้ด้านสุขภาพเกี่ยวกับการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 3) พฤติกรรมการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ มีค่าดัชนีความสอดคล้องได้เท่ากับ 0.98 และค่าความเชื่อมั่น ได้เท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient) และ สเปียแมน
        ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 59.60 อายุเฉลี่ย 55 ปี ระดับการศึกษาอนุปริญญา/ปวส. คิดเป็นร้อยละ 63.14 สถานภาพ สมรส คิดเป็นร้อยละ 60.60 ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย คิดเป็นร้อยละ 30.10 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนมีรายได้ระหว่างห้าพันถึงหนึ่งหมื่นบาท ความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยรวม มีคะแนนเฉลี่ยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( =3.55, S.D=0.89) ระดับการศึกษา ด้านความรู้ความเข้าใจการส่งเสริมในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ด้านการสื่อสารการส่งเสริมในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองด้านการจัดการตนเองในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง อย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ส่วนด้านการเข้าถึงการได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง อย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
มรรคาเขต ส. ., ศรีสุวรรณ ธ. ., & ยุทธวรวิทย์ ร. . (2025). ความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล. วารสารสุขภาพสตรอง แอนด์ เฮลที้, 1(3), 5–18. สืบค้น จาก https://he04.tci-thaijo.org/index.php/SAHJ/article/view/2619
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรรณิกา อุ่นอ้าย, พนิดา ชัยวัง, พรภิมล กรกกฎกำจร และดวงใจ ปันเจริญ. (2565). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันโรคโควิด-19 ของผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมในชุมชนชนบท จังหวัดเชียงราย. พยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 49 (1), 200-212

กรมควบคุมโรค. การประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพของประชาชนไทย ปี 2564. สืบค้นเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2564,จาก https://ddc.moph.go.th/upload/pu

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข. (2561). แผนยุทธศาสตร์ ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ด้านสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 2 (พ.ศ.2561). สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2566, จาก http://dmsic.moph.go.th/index/detail/7602.

กระทรวงสาธารณสุข. (2563). แบบสำรวจความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับประชาชนไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป. กรุงเทพฯ: กองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข.

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. (2565). สถานการณ์และแนวโน้มสุขภาพและการแพทย์ฉุกเฉิน (ระดับ โลกและประเทศไทย). สืบค้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2565, จาก https://www.niems.go.th

ขวัญเมือง แก้วดำเกิง. (2562). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ ขั้นพื้นฐานปฏิสัมพันธ์ วิจารณญาณ. กรุงเทพฯ: อัมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์.

ชูชาติ กลิ่นสาคร และสุ่ยถิน แซ่ตัน. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารสภาการสาธารณสุขชุมชน, 2(2): 62-77.

ศุภวรรณ มโนสุนทร. (2563). รายงานการพยากรณ์โรคหลอดเลือดสมอง. กรุงเทพฯ: สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.