บทบาทของเครือข่ายปฐมภูมิในการคัดกรองและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
คำสำคัญ:
เครือข่ายปฐมภูมิ, การคัดกรองและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโควิด-19บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยแบบผสมผสาน (mixed methods research) โดยใช้รูปแบบความสอดคล้องคู่ขนาน (convergent parallel design) เก็บข้อมูลการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานีและนราธิวาส วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทของเครือข่ายปฐมภูมิในการคัดกรองและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 กลุ่มตัวอย่างมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ มีบทบาทหน้าที่ในการคัดกรองและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ในพื้นที่ สุ่มตัวอย่างแบบกำหนดโควตา (quota sampling) จากอำเภอที่มีอัตราการติดเชื้อสูงสุดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดละ 2 อำเภอ อำเภอละ 2 ตำบล รวม 6 ตำบล ตำบลละ 80 คน ได้แก่ บุคลากรสาธารณสุข 10 คน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 30 คน บุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10 คน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 10 คน ผู้นำศาสนา 10 คน และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ 10 คน รวมจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 481 คน ใช้แบบสอบถามความรู้และบทบาทการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการสนทนากลุ่ม และสัมภาษณ์เชิงลึก กำหนดโควตาตำบลละ 45 คน จำนวน 6 ตำบล กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างในแต่ละตำบล ตามโควตา ได้แก่ ผู้บริหารสาธารณสุข 2 คน บุคลากรสาธารณสุข 12 คน ประธาน อสม.และแกนนำ อสม. 10 คน ผู้บริหารและบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6 คน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 5 คน ผู้นำศาสนา 5 คน และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ 5 คน รวมจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 270 คน เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2564 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์เชิงคุณภาพเพื่อหาประเด็นสำคัญ (thematic analysis)
ผลการศึกษา พบว่า บทบาทในการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ในการคัดกรองและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ในภาพรวมของเครือข่าย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (mean = 3.19, SD = 0.51 ) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า บทบาทด้านการคัดกรองและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (mean = 3.33, SD = 0.56 ) รองลงมาคือด้านการใช้มาตรการทางสังคมและกฎหมาย และการสื่อสารความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมีค่าเฉลี่ยใกล้เคียงกัน (mean = 3.25, SD = 0.59, mean = 3.22, SD = 0.60)
ผลการศึกษาเชิงคุณภาพ พบว่า บทบาทในการคัดกรองและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ของเครือข่ายปฐมภูมิ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีการรวมตัวกันของหลายภาคส่วนในพื้นที่มาทำงานร่วมกัน ได้แก่ 1) อสม.มีบทบาทเชิงรุกในการคัดกรองและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโดยแบ่งโซนรับผิดชอบครัวเรือนกัน รวมทั้งมีบทบาทในการสื่อสารและการใช้มาตรการทางกฎหมาย 2) บุคลากรสาธารณสุข มีบทบาทในการบริหารจัดการระบบให้สอดคล้องกับความเชื่อและวิถีการดำเนินชีวิต การสื่อสารข้อมูล รวมใจทุกสาขาวิชาชีพให้เป็นหนึ่ง พร้อมๆ กับการทำงานเชิงรุกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 3) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีบทบาทในการสนับสนุนปัจจัยการดำรงชีพ การทำงานแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อรับมือกับโควิด-19 4) กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมีบทบาทในการสอดส่องดูแลประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ให้ทีมเครือข่ายในการลงพื้นที่เชิงรุก และแบ่งโซนรับผิดชอบครัวเรือนร่วมกับ อสม. 5) ผู้นำศาสนา เป็นผู้ชี้นำชุมชนในการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและตามหลักศาสนาอิสลามเป็นศูนย์กลางในการให้การรับรองแนวทางปฏิบัติทางสุขภาพ และเผยแพร่ความรู้ที่เป็นที่ยอมรับของชุมชน เป็นผู้ปลุกปลอบขวัญและให้กำลังใจประชาชนให้ยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการ และบทบาทของจิตอาสาในการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำไปสู่การสานพลังความร่วมมือของเครือข่ายปฐมภูมิในพื้นที่ และเป็นฐานสำคัญ และพลังชุมชนในการสร้างความร่วมมือ ตลอดถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการจัดการสุขภาพของชุมชนด้านอื่นๆ ต่อไป
References
Department of Disease Control, Ministry of Public Health. The coronavirus disease 2019 situation, 12 July 2020 [cited 2021 Mar]. Available from: https://ddc.moph.go.th/covid19-dashboard/?dashboard=province. (in Thai)
Causes of COVID-19 infection in the southern border provinces. [cited 2021 Mar 20]. Available from: https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG2003291649589. (in Thai)
Chiwat T, Mai-Ngam N, Dumchuen N, Amesbutr J, Thana P, Chisrilak C. Behavioral economics on life journey and collective action of Thai household under COVID-19 situation. Health Systems Research Insitute; 2021 [cited 2021 Jul 20]. Available from: https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/5233?show=full. (in Thai)
The Royal Thai Government. The coronavirus disease 2019 situation, 11 October 2022 [cited 2022 Sep]. Available from: https://www.thaigov.go.th/news/contents/index/1176. (in Thai)
The Royal Thai Government. Primary care system helps Thai people control COVID-19 15 May 2020, 11 October [cited 2022 Sep]. Available from: https://www.thaigov.go.th/news/contents/index/1176. (in Thai)
Chuengsatiansup K, Kata P. Primary care services: Philosophy to practices in new dimension [cited 2021 Mar]. Available from: https://kb.hsri.or.th/dspace/bitstream/handle/11228/4872/hs1458.pdf?sequence=1&isAllowed=y. (in Thai)
Department of Disease Control, Ministry of Public Health. Guideline of health workers to response in the event of coronavirus disease 2019 outbreak [ cited 2021 Mar]. Available from: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/g_other/G42_1.pdf. (in Thai)
Department of Disease Control, Ministry of Public Health. Public health practice guidelines for the management of COVID-19 pandemic under the section 9 of the emergency decree B.E 2548 (No 1), 3 April 2020 [cited 2021 Mar ], Available from: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/g_other/g_other02.pdf. (in Thai)
Mile MB, Huberman AM. An expanded sourcebook: Qualitative data analysis. 2nd ed. California: Sage; 1994.
Lincoln YS, Guba EG. Naturalistic inquriry. California: Sage; 1985.
World Health Organization. Infection prevention and control during health care when coronavirus disease (COVID-19) is suspected or confirmed. [cited 2021 Mar]. Available from: https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/331510/WHO-2019-nCov-HCWadvice-2020.2-eng.pdf.
World Health Organization. Role of primary care in the COVID-19 response. [cited 2021 Mar]. Available from: https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/331921/Primarycare-COVID-19-eng.pdf?sequence=5&isAllowed=y.
Nawsuwan K, Singweratham N, Theppakson P. Composition and indicators for successful implementation of novel coronavirus (COVID-19) in the community of village health volunteers (VHVs) in Thailand. The Southern College Network Journal of Nursing and Public Health 2020 [cited 2021 Mar];7(2):a-e. Available from: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/scnet/article/view/242083/164646. (in Thai)
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารวิจัยระบบสาธารณสุขอยู่ภายใต้การอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น