ประสิทธิผลของโปรแกรมให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพตนเองของหญิงตั้งครรภ์ ผ่านระบบบริการสาธารณสุขทางไกล โรงพยาบาลท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

ผู้แต่ง

  • สาวิตรี ปวรางกูร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม

คำสำคัญ:

หญิงตั้งครรภ์, โปรแกรมให้ความรู้, ระบบบริการสาธารณสุขทางไกล

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพตนเองของหญิงตั้งครรภ์ ผ่านระบบบริการสาธารณสุขทางไกล โรงพยาบาลท่าอุเทน จังหวัดนครพนม การวิจัยเป็นแบบกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) โดยใช้แบบแผนการวิจัยสองกลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลอง (Two-Group Pretest-Posttest Design) กลุ่มตัวอย่างคือหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ในโรงพยาบาลท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ระหว่างเดือนมีนาคม–กันยายน พ.ศ. 2568 จำนวน 62 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 31 คน และกลุ่มควบคุม 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป 2) แบบสอบถามการรับรู้ด้านการดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ 3)โปรแกรมให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพตนเองของหญิงตั้งครรภ์ ผ่านระบบบริการสาธารณสุขทางไกล การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน Paired Sample t-test และ Independent Sample t-test กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติไว้ที่ .05

ผลการศึกษาพบว่า หลังได้รับโปรแกรม หญิงตั้งครรภ์ในกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยการรับรู้ด้านการดูแลสุขภาพสูงกว่าก่อนทดลอง และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) ในทุกด้าน ได้แก่ ด้านอาหารและการใช้ยา ด้านภาวะแทรกซ้อน และด้านสัญญาณอันตราย โดยหญิงตั้งครรภ์ในกลุ่มทดลองสามารถนำความรู้ไปใช้ในการดูแลสุขภาพได้จริง

สรุปได้ว่า โปรแกรมให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพตนเองของหญิงตั้งครรภ์ ผ่านระบบบริการสาธารณสุขทางไกล มีประสิทธิผลในการเสริมสร้างความรู้ ความตระหนัก และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมของหญิงตั้งครรภ์ อีกทั้งสามารถประยุกต์ใช้ในคลินิกฝากครรภ์ของโรงพยาบาลชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพแม่และเด็กในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

กรมอนามัย. (2567). รายงานสถานการณ์การตายมารดา เขตสุขภาพที่ 8 และจังหวัดนครพนม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562–2567. กองอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2567 จาก https://dashboard.anamai.moph.go.th/dashboard/mmr

จารุวรรณ เย็นเสมอ, และคณะ. (2564). การพัฒนาระบบบริการเครือข่ายแบบห้องคลอดเดียวกันเพื่อแก้ไขปัญหาการตายมารดาจากสาเหตุที่ป้องกันได้ (มีการใช้ Tele-Line Consulting System). วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 15(36), 138–148.

ตติรัตน์ เตชะศักดิ์ศรี, และคณะ. (2560).แบบจำลองเชิงสาเหตุคุณภาพชีวิตของหญิงตั้งครรภ์.วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 4(1), 28-46.

ธันยพร ศรีวงค์ชัย, และคณะ. (2566). การประยุกต์ใช้นวัตกรรมแอปพลิเคชัน “มาม่า” บนโทรศัพท์มือถือเพื่อส่งเสริมสุขภาพหญิงตั้งครรภ์. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานี, 35(2), 45–60.

บุญชม ศรีสะอาด. (2545). พื้นฐานการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

รุจิพัชญ์ เพ็ชร์สินเดชากุล, และสาริศา สืบจากดี.(2567). ผลของโปรแกรมการให้คำปรึกษาการตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม ในหญิงตั้งครรภ์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์.วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 47(ฉบับเพิ่มเติม), 11-25.

ละออง บุตรศาสตร์. (2567). ผลของโปรแกรมสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อความรู้และการปฏิบัติตัวของหญิงตั้งครรภ์ครั้งแรก โรงพยาบาลหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ,5(3), 368–379.

ศจี สงจันทร์, และคณะ. (2566). พฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชันไลน์ “9 ย่างเพื่อสร้างลูก” ในหญิงตั้งครรภ์ ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น. วารสารศูนย์อนามัยที่ 7, 15(1), 79–91.

ศูนย์อนามัยที่ 8 อุดรธานี. (2567). รายงานสรุปการทบทวนการตายของมารดา (Maternal Death Review) เขตสุขภาพที่ 8 ปีงบประมาณ 2562–2567. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.

สุวดี พลน้ำเที่ยง, และคณะ. (2568). การพัฒนารูปแบบการติดตามดูแลสตรีตั้งครรภ์เสี่ยงโดยใช้ Telehealth ในเครือข่ายบริการแม่และเด็ก. วารสารการพยาบาล สุขภาพ และการศึกษา, 8(1), 38 –51.

สุวรรณอำไพ, และคณะ. (2566). ผลของโปรแกรมการให้ความรู้โดยใช้โมบายแอปพลิเคชันต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์. Thai Journal of Nursing Council, 38(2), 65–79.

World Health Organization. (2020). Trends in maternal mortality 2000 to 2020: Estimates by WHO, UNICEF, UNFPA, World Bank Group and UNDESA/Population Division. WHO.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-10-13

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ปวรางกูร ส. ประสิทธิผลของโปรแกรมให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพตนเองของหญิงตั้งครรภ์ ผ่านระบบบริการสาธารณสุขทางไกล โรงพยาบาลท่าอุเทน จังหวัดนครพนม. Acad J Nurse Health Sci [อินเทอร์เน็ต]. 13 ตุลาคาม 2025 [อ้างถึง 16 ตุลาคาม 2025];5(3):21-32. available at: https://he04.tci-thaijo.org/index.php/AJNHS/article/view/3774

ฉบับ

ประเภทบทความ

รายงานผลการวิจัย