ผลการพัฒนาระบบติดตามยามอร์ฟีนเหลือใช้ในผู้ป่วยระยะสุดท้าย โรงพยาบาลนาดูน จังหวัดมหาสารคาม

ผู้แต่ง

  • คมสันต์ ศรัทธาคลัง โรงพยาบาลนาดูน

คำสำคัญ:

ยามอร์ฟีน, ผู้ป่วยระยะสุดท้าย, ระบบติดตามยา

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบติดตามยามอร์ฟีนเหลือใช้ในผู้ป่วยระยะสุดท้ายโรงพยาบาลนาดูน กลุ่มเป้าหมายในการศึกษา ประกอบด้วย กลุ่มทีมสหวิชาชีพ 20 คน กลุ่มผู้ป่วยระยะสุดท้าย 30 คน โดยใช้วิธีเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ระยะเวลาในการดำเนินการวิจัย ตุลาคม 2565 – กรกฎาคม 2567 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบบันทึก IN HOME SSS แบบประเมินผลความพึงพอใจ แบบบันทึกการทบทวนเวชระเบียน การสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละและวิเคราะห์เชิงเนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

1.ผลการวิเคราะห์ปัญหาการติดตามยามอร์ฟีนเหลือใช้ในผู้ป่วยระยะสุดท้าย พบว่า มีปัญหาด้านการบริหารจัดการยาเหลือใช้หลังจากผู้ป่วยเสียชีวิต ปัญหาด้านการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ปัญหาด้านระยะเวลาที่เหมาะสมของการให้ยา ปัญหาด้านการเกิดพิษจากยามอร์ฟีน

2.การพัฒนาระบบติดตามยามอร์ฟีนเหลือใช้ในผู้ป่วยระยะสุดท้าย โรงพยาบาลนาดูน ประกอบด้วย 1) ด้านการควบคุมการจัดเก็บยามอร์ฟีนเหลือใช้ 2) ด้านการเบิกจ่ายยามอร์ฟีนที่ได้มาตรฐาน 3) ด้านการใช้ยามอร์ฟีนในผู้ป่วยระยะสุดท้ายอย่างมีประสิทธิภาพ 4)ด้านระบบการติดตามผลการใช้ยา 5) การจัดการข้อมูลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในการใช้ยามอร์ฟีน 6) พัฒนาแอปพลิเคชันไลน์ Nadundrug line official

3. ผลการประเมิน พบว่า มีการพัฒนารูปแบบ 2 วงรอบ ทำให้มีการติดตามและเก็บยามอร์ฟีนกลับคืนเข้าโรงพยาบาล มีมูลค่ายามอร์ฟีนทั้งสิ้น 12,861.69 บาท อีกทั้งมีการนำยามอร์ฟีนที่เหลือ นำยาไปจ่ายให้กับผู้ป่วยคนอื่นได้ และสหวิชาชีพมีความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบ ในระดับมากที่สุด (blobid0.png= 4.70, SD = 0.14)   

References

กองควบคุมวัตถุเสพติด.(2563).การศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการบริหารจัดการ การใช้ยาใน

กลุ่มโอปิออยด์.นนทบุรี:สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข.

กองบริหารการสาธารณสุข.(2561).แนวทางการบริหารจัดการระบบยาในการดูแลผู้ป่วยแบบ

ประคับประคอง (Palliative Care).นนทบุรี:สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

กระทรวงสาธารณสุข.

โรงพยาบาลนาดูน.(2566). รายงานผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ศูนย์ดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง

พ.ศ.2564 – 2565. โรงพยาบาลนาดูน, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม.

จงลักษ์ รสสุขุมาลชาติ และพนารัตน์ เจนจบ. (2564). การพัฒนาแนวทางการจัดการความปวดสำหรับ พยาบาล ในโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. เชียงรายเวชสาร, 13 (1), 182-199.

ชุติวัต ประดิษฐพัสตรา.(2565).ปัญหาในการเข้าถึงมอร์ฟีนของผู้ป่วยระยะสุดท้าย.กรุงเทพฯ:ภาควิชา

นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ไทยพีบีเอส.(2566). 4 กุมภาพันธ์ “วันมะเร็งโลก” รวมเรื่องน่ารู้และการป้องกันภัยร้าย “โรคมะเร็ง".

กรุงเทพมหานคร :องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น ฉบับปรับปรุงใหม่. พิมพ์ครั้งที่10. กรุงเทพฯ :

บริษัทสุวีริยาสาส์น จำกัด.

ปัทมาภรณ์ นาบุตรบุญ, รัชนี พจนา และจันจิรา วิทยาบำรุง.(2566). การพัฒนารูปแบบการจัดการความปวด

ผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายโรงพยาบาลชนบท.วารสารวิชาการทางการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ,

(2), 6-17.

มลิวัลย์ แจ่มแจ้ง.(2566). การพัฒนาบทบาทของเภสัชกรในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบประคับประคอง

ร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพของโรงพยาบาลสระบุรี.เภสัชกรรมคลินิก, 29(2), 103-115.

ศศิกานต์ นิมมานรัชต์.(2550). Pain & Pain management in Special Population.

ใน:ศศิกานต์ นิมมานรัชต์, ชัชชัย ปรีชาไว, บรรณาธิการ. ความปวดและการ จัดการความปวดในกลุ่ม

ผู้ป่วยที่มีปัญหาพิเศษ. สงขลา: ชานเมืองการพิมพ์. .

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ.(2566).ประชุมวิชาการโรคมะเร็งแห่งชาติครั้งที่ 15.นนทบุรี:กรมการแพทย์.

Kemmis S, & McTaggart R. (1988). The actionresearch planner. Deakini University.

World Health Organization. Cancer [Internet]. 2018. Available from:

https://www. who.int/news-room/fact-sheets/detail/cancer

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-12-08