การพัฒนาแนวทางการใช้บริการห้องปฏิบัติการอย่างคุ้มค่าในโรงพยาบาลนาดูน จังหวัดมหาสารคาม

ผู้แต่ง

  • พรทิวา ไชยสงคราม โรงพยาบาลนาดูน
  • อุมารินทร์ ภาระจ่า โรงพยาบาลนาดูน

คำสำคัญ:

การใช้บริการห้องปฏิบัติการอย่างคุ้มค่า, HbA1c, โรคเบาหวาน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางการใช้บริการห้องปฏิบัติการอย่างคุ้มค่าในการตรวจ Hemoglobin A1c (HbA1c) ของผู้ป่วยเบาหวานในโรงพยาบาลนาดูน จังหวัดมหาสารคาม เพื่อลดอัตราการตรวจซ้ำภายใน 90 วัน และประเมินผลการใช้แนวทางการใช้บริการห้องปฏิบัติการอย่างคุ้มค่าในการตรวจ Hemoglobin A1c (HbA1c) ของผู้ป่วยเบาหวาน ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 ถึงกันยายน 2567 กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยผู้ป่วยเบาหวาน 1,910 ราย และทีมสหวิชาชีพ 16 คน คัดเลือกแบบเจาะจง ดำเนินการตามขั้นตอนการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกต และการสะท้อนผล แนวทางที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย (1)แนวทางการสั่งตรวจ HbA1c ตามข้อบ่งชี้ทางคลินิก (2)ระบบเตือนความจำอิเล็กทรอนิกส์ในโปรแกรม HOSxP (3)การอบรมทีมสหวิชาชีพ (4)การให้ความรู้ผู้ป่วย และ(5)ระบบติดตามและประเมินผล เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลการตรวจ HbA1c แนวทางการใช้บริการห้องปฏิบัติการ แบบทดสอบความรู้ และแบบประเมินความพึงพอใจ

ผลการวิจัยพบว่า อัตราการตรวจ HbA1c ซ้ำภายใน 90 วันลดลงจากร้อยละ 5.08 ในปี 2566 เป็นร้อยละ 0.37 ในปี 2567 (p < 0.001) คะแนนความรู้เฉลี่ยของทีมสหวิชาชีพเพิ่มจาก 6.25 ± 1.18 เป็น 9.31 ± 0.70 ทันทีหลังอบรม (p < 0.001) และคงอยู่ในระดับสูง (9.06 ± 0.77) หลัง 6 เดือน ผู้ป่วยมีความพึงพอใจในระดับดีมาก (คะแนนเฉลี่ย 4.58 ± 0.44) ผลการวิจัยแสดงว่าแนวทางที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิผลในการลดการตรวจซ้ำที่ไม่จำเป็น เพิ่มความรู้ของทีมสหวิชาชีพ และเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย ส่งผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

กนกวรรณ ใจดี, สมชาย วงศ์ใหญ่, และพิมพ์ใจ สุขสันต์. (2564). ความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อการให้บริการห้องปฏิบัติการทางการแพทย์โรงพยาบาลชุมชน. วารสารสาธารณสุขและการพัฒนา, 19(2), 45-58.

บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 7). สุวีริยาสาส์น.

นภัสสร พรหมจันทร์, วิชัย ศรีสุพรรณ, และอัญชลี มั่นคง. (2566). ประสิทธิผลของการอบรมเชิงรุกต่อการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุข. วารสารพยาบาลทหารบก, 24(1), 112-125.

พิชญา สุขสวัสดิ์, ธนพล รักษ์ดี, และสุภาพร ใจเย็น. (2564). การพัฒนาระบบช่วยตัดสินใจทางคลินิกในโรงพยาบาลชุมชน. วารสารเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์, 15(3), 78-92.

สมชาย ศรีสุข, วิไล ประดิษฐ์, และนพดล เจริญ. (2565). ผลของแนวทางปฏิบัติทางคลินิกต่อคุณภาพการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 31(4), 567-580.

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2565). แนวทางการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์อย่างคุ้มค่า. กระทรวงสาธารณสุข.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2567). สถิติสาธารณสุข พ.ศ. 2567. สำนักงานสถิติแห่งชาติ.

สุวรรณา จิตต์มิตรภาพ, ประพันธ์ ใจดี, และสมศักดิ์ วงศ์ใหญ่. (2563). การพัฒนาระบบการใช้บริการห้องปฏิบัติการในโรงพยาบาลศูนย์. วารสารเวชศาสตร์เขตร้อน, 20(2), 234-247.

อรุณี ศรีวงศ์ชัย, สมบูรณ์ แก้วมณี, และชัยวัฒน์ พลอยงาม. (2566). การมีส่วนร่วมของบุคลากรต่อความยั่งยืนของระบบบริการสุขภาพ. วารสารการพัฒนาระบบสุขภาพ, 14(1), 23-38.

American Diabetes Association. (2024). Standards of medical care in diabetes. Diabetes Care, 47(Suppl. 1), S1-S295.

Cassel, C. K., & Guest, J. A. (2012). Choosing wisely: Helping physicians and patients make smart decisions about their care. JAMA, 307(17), 1801-1802.

Diabetes Association of Thailand. (2023). Clinical practice guideline for diabetes 2023.Diabetes Association of Thailand.

Kemmis, S., & McTaggart, R. (2000). Participatory action research. In N. K. Denzin & Y. S. Lincoln (Eds.), Handbook of qualitative research (2nd ed., pp. 567-605). SAGE Publications.

McNiff, J., & Whitehead, J. (2011). All you need to know about action research (2nd ed.).SAGE Publications.

Miyakis, S., Karamanof, G., Liontos, M., & Mountokalakis, T. D. (2006). Factors contributing to inappropriate ordering of tests in an academic medical department and the effect of an educational feedback strategy. Postgraduate Medical Journal, 82(974), 823-829.

Nathan, D. M., Kuenen, J., Borg, R., Zheng, H., Schoenfeld, D., & Heine, R. J. (2008). Translating the A1C assay into estimated average glucose values. Diabetes Care, 31(8), 1473-1478.

Polonsky, W. H., & Henry, R. R. (2016). Poor medication adherence in type 2 diabetes: Recognizing the scope of the problem and its key contributors. Patient Preferenceand Adherence, 10, 1299-1307.

Sacks, D. B. (2011). A1C versus glucose testing: A comparison. Diabetes Care, 34(2), 518-523.

World Health Organization. (2023). Global report on diabetes. World Health Organization.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-10-26

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ไชยสงคราม พ, ภาระจ่า อ. การพัฒนาแนวทางการใช้บริการห้องปฏิบัติการอย่างคุ้มค่าในโรงพยาบาลนาดูน จังหวัดมหาสารคาม. Acad J Nurse Health Sci [อินเทอร์เน็ต]. 26 ตุลาคาม 2025 [อ้างถึง 31 ตุลาคาม 2025];5(3):59-73. available at: https://he04.tci-thaijo.org/index.php/AJNHS/article/view/3852

ฉบับ

ประเภทบทความ

รายงานผลการวิจัย