การพัฒนารูปแบบการพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บวิกฤต (Trauma triage level 1) แผนกอุบัติเหตุฉุกเฉินและนิติเวช โรงพยาบาลนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม

ผู้แต่ง

  • แววนภา ปุปาจันโท โรงพยาบาลนาเชือก
  • กัลยารัตน์ ระถี โรงพยาบาลนาเชือก

คำสำคัญ:

ผู้ป่วยบาดเจ็บวิกฤต, การพัฒนารูปแบบ, การพยาบาล

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บวิกฤต (Trauma triage level 1) ในแผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยพยาบาลวิชาชีพ 10 คน และผู้ป่วยบาดเจ็บวิกฤตจำนวน 30 คน ดำเนินการวิจัย 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเตรียมการ พัฒนาระบบ และประเมินผล เครื่องมือผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ท่าน มีค่าดัชนีความตรง 0.95 และค่าความเที่ยงจากการสังเกตร่วม 0.89 รวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึง กันยายน 2568 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา

ผลการวิจัย: พบว่าพยาบาลส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 90.00 อายุเฉลี่ย 27.80 ปี มีประสบการณ์ 1–3 ปี ร้อยละ 40.00 และผ่านการอบรม ACLS ร้อยละ 90.00 ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 60.00 ช่วงอายุ 0–15 ปี, 31–45 ปี และมากกว่า 60 ปี ร้อยละ 23.30 ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุจราจร ร้อยละ 83.33 การวินิจฉัยที่พบบ่อยคือ Multiple Trauma ร้อยละ 46.70 และ Traumatic Brain Injury ร้อยละ 33.30 รูปแบบการพยาบาลที่พัฒนาขึ้นมี 11 หมวด ได้รับการประเมินว่ามีความสามารถในการปฏิบัติระดับดีมาก ร้อยละ 90.00 การใช้แบบประเมินมีความถูกต้อง รวดเร็ว และแม่นยำ ร้อยละ 100.00 ความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 100.00 อัตราการเสียชีวิตลดลงเหลือร้อยละ 10.00 และ Door to refer ภายใน 1 ชั่วโมง ร้อยละ 100.00

สรุปผลการศึกษา: รูปแบบการพยาบาลที่พัฒนาขึ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประเมินและดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บวิกฤต และลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างชัดเจน

เอกสารอ้างอิง

กรมควบคุมโรค. (2567). รายงานสถานการณ์การบาดเจ็บและอุบัติเหตุประเทศไทย พ.ศ. 2567. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข.

กระทรวงสาธารณสุข. (2566). รายงานสถิติด้านอุบัติเหตุ พ.ศ. 2566. กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข.

โรงพยาบาลนาเชือก. (2565–2567). รายงานการเฝ้าระวังผู้ป่วยบาดเจ็บวิกฤต พ.ศ. 2565–2567.มหาสารคาม : โรงพยาบาลนาเชือก

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2566). รายงานสถิติอุบัติเหตุทางถนนประเทศไทย พ.ศ. 2566. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.

American College of Surgeons. (2018). ATLS: Advanced trauma life support student course manual (10th ed.). Chicago, IL: Author.

Ghazali, H., Nor, F. M., & Abdullah, N. (2020). Implementation of ATLS protocol in districthospitals: Effectiveness and challenges. Malaysian Journal of Emergency Medicine, 17(2), 45–52.

Kemmis, S., & McTaggart, R. (1988). The action research planner (3rd ed.). Geelong: Deakin University Press.

Ryan, R. M., & Deci, E. L. (2020). Intrinsic and extrinsic motivation from a self-determination theory perspective: Definitions, theory, practices, and future directions. Contemporary Educational Psychology, 61, 101860.

World Health Organization. (2023). Global status report on road safety 2023. Geneva: World Health Organization.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-11-08

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ปุปาจันโท แ, ระถี ก. การพัฒนารูปแบบการพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บวิกฤต (Trauma triage level 1) แผนกอุบัติเหตุฉุกเฉินและนิติเวช โรงพยาบาลนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม. Acad J Nurse Health Sci [อินเทอร์เน็ต]. 8 พฤศจิกายน 2025 [อ้างถึง 20 พฤศจิกายน 2025];5(3):74-83. available at: https://he04.tci-thaijo.org/index.php/AJNHS/article/view/3924

ฉบับ

ประเภทบทความ

รายงานผลการวิจัย