การพัฒนาและประเมินผลแนวปฏิบัติทางการพยาบาลในการคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด งานอุบัติเหตุฉุกเฉินและนิติเวช โรงพยาบาลเทิง จังหวัดเชียงราย
Development and evaluation of nursing practice guidelines for screening patients with sepsis in the emergency and forensic department at Thoeng hospital, Chiang Rai province
คำสำคัญ:
การคัดกรองภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด, แนวปฏิบัติทางการพยาบาล, คะแนน NEWSบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประเมินผลแนวปฏิบัติทางการพยาบาลในการคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดให้เหมาะสมกับบริบทของโรงพยาบาลเทิง จังหวัดเชียงราย โดยมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาผู้ป่วยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ลดระยะเวลาในการรักษา และลดอัตราการเสียชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างสมรรถนะและความพึงพอใจของพยาบาลในการปฏิบัติงาน
การศึกษาดำเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2567 ถึงพฤษภาคม 2568 ณ งานอุบัติเหตุฉุกเฉินและนิติเวช โรงพยาบาลเทิง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยพยาบาลวิชาชีพ 15 คน และผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด 64 คน แบ่งเป็น 2 วงรอบ วงรอบละ 32 คน ใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกต และการสะท้อนผล เครื่องมือเก็บข้อมูลได้แก่ แบบประเมินความรู้ แบบสอบถามความพึงพอใจ และแบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ McNemar’s test, Wilcoxon Signed Rank test, Paired t-test การวิเคราะห์เนื้อหา และ SWOT analysis ร่วมกับกรอบแนวคิด PARIHS
ผลการวิจัยพบว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยลดลงจากร้อยละ 25.0 เหลือร้อยละ 9.4 (p < 0.05) ระยะเวลานอนโรงพยาบาลลดลงจาก 7.0 ± 2.1 วัน เหลือ 4.0 ± 1.5 วัน (p < 0.001) และคะแนน NEWS ลดลงจาก 8.0 ± 2.3 เหลือ 4.0 ± 1.8 (p < 0.001) ขณะที่คะแนนความรู้ของพยาบาลเพิ่มขึ้นจาก 12.0 ± 2.5 เป็น 18.0 ± 1.2 (p <0.001) และมีความพึงพอใจระดับสูง (4.3 ± 0.5) นอกจากนี้ จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการคัดกรองเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.7 และเวลาในการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและให้ยาปฏิชีวนะลดลงร้อยละ 55.6 ข้อเสนอแนะคือควรขยายผลการใช้แนวปฏิบัติไปยังโรงพยาบาลชุมชนอื่น และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสนับสนุนการคัดกรองเพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลผู้ป่วยอย่างยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Global report on the epidemiology and burden of sepsis: current evidence, identifying gaps and future directions. Geneva: WHO; 2020.
Rudd KE, Johnson SC, Agesa KM, Shackelford KA, Tsoi D, Kievlan DR, et al. Global, regional, and national sepsis incidence and mortality, 1990-2017: analysis for the Global Burden of Disease Study. Lancet. 2020;395(10219):200-11.
Seymour CW, Gesten F, Prescott HC, Friedrich ME, Iwashyna TJ, Phillips GS, et al. Time to treatment and mortality during mandated emergency care for sepsis. N Engl J Med. 2017;376(23):2235-44.
Evans L, Rhodes A, Alhazzani W, Antonelli M, Coopersmith CM, French C, et al. Surviving sepsis campaign: international guidelines for management of sepsis and septic shock 2021. Intensive Care Med. 2021;47(11):1181-247.
สุภาพร ชินชัย, รัชนี จันทร์เพ็ญ, มาลี เอี่ยมสำอางค์. ปัจจัยความสำเร็จในการนำหลักฐานเชิงประจักษ์ไปใช้ในการปฏิบัติการพยาบาล: กรณีศึกษาโรงพยาบาลชุมชน. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. 2566;41(3):234-48.
วิชัย เอกพลากร, สมชาย สุระชัย, พรทิพย์ วงศ์แก้ว. การศึกษาผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์ของการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดในโรงพยาบาลชุมชนภาคเหนือ. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 2566;17(1):89-102.
สมาคมพยาบาลฉุกเฉินแห่งประเทศไทย. แนวปฏิบัติการพยาบาลฉุกเฉิน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: สมาคมพยาบาลฉุกเฉินแห่งประเทศไทย; 2565.
Damiani E, Donati A, Serafini G, Rinaldi L, Adrario E, Pelaia P, et al. Effect of performance improvement programs on compliance with sepsis bundles and mortality: a systematic review and meta-analysis of observational studies. PLoS One. 2015;10(5): e0125827.
อภิชัย มงคล, วิโรจน์ เจียมจรัสรังษี, อรพรรณ โพชนุกูล. การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต: แนวคิดและการปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2566.
โรงพยาบาลเทิง. รายงานสถิติผู้ป่วยห้องฉุกเฉินพ.ศ. 2564-2566 . เชียงราย: โรงพยาบาลเทิง; 2566.
สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย. แนวทางการจัดการผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดและภาวะช็อคจากการติดเชื้อ ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2565. กรุงเทพฯ: สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย; 2565.
วิจารณ์ พานิช. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม; 2560.
Kemmis S, McTaggart R. The action research planner. 3rd ed. Victoria: Deakin University Press; 1988.
กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการพัฒนาระบบ Sepsis Fast Track ในโรงพยาบาล. นนทบุรี: กองบริหารการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข; 2564.
Elo S, Kyngäs H. The qualitative content analysis process. J Adv Nurs. 2008;62(1):107-15.
Townsend SR, Phillips GS, Duseja R, Tefera L, Cruikshank D, Dickerson R, et al. Effects of compliance with the early management bundle (SEP-1) on mortality changes among Medicare beneficiaries with sepsis: a propensity scores matched cohort study. Chest. 2022;161(2):392-406.
Rivers E, Nguyen B, Havstad S, Ressler J, Muzzin A, Knoblich B, et al. Early goal-directed therapy in the treatment of severe sepsis and septic shock. N Engl J Med. 2001;345(19):1368-77.
สมพร รักษาศีล, จันทนา รณภพ, ศิริพร ขัมภลิขิต. ผลของการใช้ NEWS score ในการคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด: การศึกษาในโรงพยาบาลชุมชน. วารสารการพยาบาลฉุกเฉิน. 2566;10(2):145-58.
Salomão R, Ferreira BL, Salomão MC, Santos SS, Azevedo LCP, Brunialti MKC. Sepsis: evolving concepts and challenges. Braz J Med Biol Res. 2019;52(4):e8595.
Morgan RJM, Williams F, Wright MM. An early warning scoring system for detecting developing critical illness. Clin Intensive Care. 1997;8(2):100.
อรพรรณ โตสิงห์, ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์, นวลจันทร์ ปราบพาล. ประสิทธิผลของการใช้ NEWS score ในการคัดกรองผู้ป่วยฉุกเฉินในโรงพยาบาลชุมชน: การศึกษาพหุสถาบัน. วารสารพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก. 2567;35(1):45-58.
Knowles MS, Holton EF III, Swanson RA. The adult learner: the definitive classic in adult education and human resource development. 8th ed. New York: Routledge; 2015.
ปิยะนุช จิตตนูนท์, วิภาดา คุณาวิกติกุล, อารีวรรณ กลั่นกลิ่น. การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาล: การสร้างการเรียนรู้ระดับองค์กร. วารสารสภาการพยาบาล. 2567;39(1):112-26.
Senge PM. The fifth discipline: the art and practice of the learning organization. Rev ed. New York: Doubleday/Currency; 2006.
วิไลวรรณ ทองเจริญ, สมศรี เจริญเกียรติ, ประภาพร สุวรรณ. การพัฒนาระบบ sepsis fast track ในโรงพยาบาลชุมชน: การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม. วารสารการพยาบาลและการศึกษา. 2566;16(2):78-91.
World Health Organization. Framework for action on interprofessional education and collaborative practice. Geneva: WHO; 2010.
Kotter JP. Leading change. Boston: Harvard Business Review Press; 2012.
สุภาพร ชินชัย, รัชนี จันทร์เพ็ญ, มาลี เอี่ยมสำอางค์. ปัจจัยความสำเร็จในการนำหลักฐานเชิงประจักษ์ไปใช้ในการปฏิบัติการพยาบาล: กรณีศึกษาโรงพยาบาลชุมชน. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. 2566;41(3):234-48.
พิมพ์ใจ นิภารักษ์, วราภรณ์ บุญเชิด, สุนิสา ชัยมงคล. การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดแบบบูรณาการในโรงพยาบาลชุมชน. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ. 2566;41(2):156-69.
World Health Organization. Improving the prevention, diagnosis and clinical management of sepsis. WHA70.7. Geneva: WHO; 2017.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และบุคลากรท่านอื่น ในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว