การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยก่อนผ่าตัด โรงพยาบาลเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
คำสำคัญ:
แนวปฏิบัติการพยาบาล, การเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัด, ความปลอดภัยของผู้ป่วยบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสถานการณ์การเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยก่อนผ่าตัด โรงพยาบาลเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม (2) พัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยก่อนผ่าตัด และ (3) ประเมินผลการพัฒนาแนวปฏิบัติดังกล่าว กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยพยาบาลวิชาชีพในห้องผ่าตัดจำนวน 10 คน และผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัด โดยใช้การคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินความพึงพอใจของพยาบาล แบบประเมินการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยก่อนเข้าห้องผ่าตัด และแบบบันทึกผลลัพธ์ทางการพยาบาล การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า (1) ปัญหาหลักในการเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด ได้แก่ การขาดความรู้เฉพาะทางและการขาดแนวทางปฏิบัติที่เป็นระบบ (2) แนวปฏิบัติการพยาบาลที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ การเตรียมความพร้อมผู้ป่วย การเยี่ยมผู้ป่วยก่อนผ่าตัดและการให้ยาระงับความรู้สึก การสนับสนุนด้านจิตใจ การส่งต่อข้อมูลกับทีมสหวิชาชีพ และการเตรียมผู้ป่วยในวันผ่าตัด (3) หลังการพัฒนา พยาบาลวิชาชีพมีคะแนนการปฏิบัติการพยาบาลอยู่ในระดับสูงทุกหมวด เช่น การเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดเพิ่มจากร้อยละ 76 เป็นร้อยละ 98 และการสนับสนุนด้านจิตใจเพิ่มจากร้อยละ 86 เป็นร้อยละ 100 ความพึงพอใจของพยาบาลต่อแนวปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด( = 4.60, SD = 0.52) ผลลัพธ์ทางการพยาบาลพบว่าภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดลดลงจากร้อยละ 4.88 เป็น 0 อุบัติการณ์เลื่อนผ่าตัดลดลงเหลือร้อยละ 2.44 และไม่พบอุบัติการณ์ผ่าตัดผิดคน ผิดข้าง หรือผิดตำแหน่ง
โดยสรุป การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยก่อนผ่าตัดมีประสิทธิผลในการเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วย ลดความผิดพลาดในกระบวนการผ่าตัด และเสริมสร้างคุณภาพการพยาบาลในบริบทของโรงพยาบาลชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม
เอกสารอ้างอิง
จารุณี ตั้งใจรักการดี. (2561). การพัฒนาแนวปฏิบัติการเยี่ยมผู้ป่วยก่อนผ่าตัดของพยาบาลห้องผ่าตัด โรงพยาบาลหัวหิน. วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล, 3(1), 1-6.
ทศพร ทองย้อย และคณะ. (2566). การพัฒนาแนวทางการป้องกันการติดเชื้อแผลผ่าตัดในผู้ป่วยผ่าตัดกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 41(3), 1-13.
ธันยมัย ปุรินัย แคทรียา เทนสิทธ์ และชวลิต โพธิ์งาม. (2560). การพัฒนาแนวทางการเตรียมผู้ป่วยเพื่อลดอุบัติการณ์งดและลดการเลื่อนผ่าตัดในโรงพยาบาลศรีสะเกษ. วารสารวิชาการสาธรณสุข, 30(3), 521-530.
ปวีณา จิตต์ตรง. (2567). การพัฒนาระบบบริการงานการพยาบาลผู้ป่วยห้องผ่าตัด โรงพยาบาลนาแก จังหวัดนครพนม. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 9(2), 273-283.
โรงพยาบาลเชียงยืน.(2567). ข้อมูลสถิติงานห้องผ่าตัดและเวชระเบียนผู้ป่วย. โรงพยาบาลเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม.
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล. (2561). เป้าหมายความปลอดภัยของผู้ป่วยของประเทศไทย พ.ศ. 2561 Patient Safety Goal: SIMPLE Thailand 2018. กรุงเทพฯ: เฟมัส แอนด์ ซัคเซ็สฟูล.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข. (2567). รายงานข้อมูลภาพรวมจำแนกกลุ่มผ่าตัด/กลุ่มไม่ผ่าตัด. สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข.
Kemmis S, & McTaggart R. (1988). The action research planner. Deakin University.
Sackett, D. L., Rosenberg, W. M., Gray, J. A., Haynes, R. B., & Richardson, W. S. (1997). Evidence based medicine: what it is and what it isn't? BMJ, 312, 71-72.
World Health Organization [WHO]. (2014). Preliminary version of minimal information model for patient safety. Retrieved from http://www.who.int/about/licensing/copyright form/en/index.html.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.