Publication Ethics

วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่บทความงานวิจัยและบทความวิชาการในกลุ่มสาขา แม่และเด็กปฐมวัย วัยเรียนวัยรุ่น วัยทำงาน วัยสูงอายุ  และอนามัยสิ่งแวดล้อมและสาขาอื่นๆ เพื่อให้การสื่อสารทางวิชาการเป็นไปอย่างถูกต้อง มีคุณภาพ โปร่งใสและสอดคล้องกับมาตรฐานการตีพิมพ์ระดับสากล วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม จึงกำหนดหลักปฏิบัติและมาตรฐานด้านจริยธรรมในการตีพิมพ์ ดังนี้
  บทบาทและหน้าที่ของผู้นิพนธ์ (Duties of Authors) 

  1. ผลงานที่ส่งมาเพื่อตีพิมพ์ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดมาก่อน 
  2. ผลงานที่นำเสนอต้องรายงานตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจาการทำวิจัย ไม่บิดเบือนข้อมูล หรือให้ข้อมูลเป็นเท็จ 
  3. ผู้นิพนธ์ต้องอ้างอิงผลงานผู้อื่น และจัดทำรายการอ้างอิงท้ายบทความ กรณีนำผลงานผู้อื่นมาใช้ในผลงานของผู้เขียน  
  4. ผู้นิพนธ์ต้องจัดทำต้นฉบับตามข้อกำหนดของกองบรรณาธิการวารสาร 
  5. ผู้นิพนธ์ต้องแก้ไขความถูกต้องตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ และส่งผลงานที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วให้กองบรรณาธิการวารสาร ตามระยะเวลาที่กำหนด
  6. ผู้นิพนธ์ต้องระบุผลประโยชน์ทับซ้อน (หากมี) 

บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการ (Duties of Editors)

  1. บรรณาธิการวารสารมีหน้าที่ในการพิจารณาคุณภาพของบทความ และความครบถ้วนสมบูรณ์ของบทความเพื่อการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารที่รับผิดชอบ
  2. บรรณาธิการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เขียนและผู้ประเมินบทความ ในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ
  3. บรรณาธิการต้องไม่ปฏิเสธ การตีพิมพ์บทความ กรณ๊สงสัยว่าบทความไม่เป็นตามข้อกำหนดจนกว่าจะมีหลักฐานพิสูจน์ข้อสงสัยเหล่านั้น
  4. บรรณาธิการจะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ กับผู้นิพนธ์ ผู้ประเมินและทีมผู้บริหาร
  5. บรรณาธิการต้องระงับกระบวนการประเมินบทความทันทีหากตรวจสอบว่ามีความไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง เช่น การคัดลอกผลงานของผู้อื่นโดยไม่มีการอ้างอิง พร้อมชี้แจงเหตุผลให้เจ้าของผลงานทราบ 
  6. บรรณาธิการต้องมีความโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการบริหารจัดการวารสาร
  7. บรรณาธิการตรวจสอบบทความต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่น (Plagiarism) โดยใช้โปรแกรมตรวจสอบเชื่อถือได้ เพื่อแน่ใจว่าบทความที่ลงพิมพ์เผยแพร่ไม่มีการคัดลอกผลงานผู้อื่น

บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมินบทความ (Duties of Reviewers)

  1. ผู้ประเมินบทความต้องรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความที่ส่งมาเพื่อพิจารณาแก่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
  2. ผู้ประเมินบทความจะต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์ เช่น เป็นผู้นิพนธ์ร่วมหรืออื่นๆ ที่จะทำให้ผู้ประเมินไม่สามารถประเมินและให้ข้อเสนอแนะได้อย่างอิสระได้
  3. ผู้ประเมินบทความควรประเมินบทความในสาขาที่ตนมีความเชี่ยวชาญ โดยพิจารณาความสําคัญ ของเนื้อหาในบทความ ที่จะมีต่อสาขาวิชานั้นๆ คุณภาพของการวิเคราะห์ ความเข้มข้นของผลงาน โดยไม่ใช้ความคิดเห็นส่วนตัว ที่ไม่มีข้อมูลรองรับมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินบทความ
  4. ผู้ประเมินบทความต้องให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และมีความสําคัญทางวิชาการ หากพบบทความมีความเหมือนหรือซ้ำซ้อนกับผลงานของผู้อื่น ต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบทันที
  5. ต้องประเมินด้วยความเที่ยงตรงและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ด้วยเหตุผลทางด้านวิชาการ