การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพเชิงรุกจากคุณภาพน้ำ ในลุ่มน้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก จังหวัดเชียงราย

Action Research for Developing a Proactive Health Surveillance System Related to Water Quality in the Kok, Sai, and Ruak River Basins, Chiang Rai Province, Thailand

ผู้แต่ง

  • สินีนาฏ ทองสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย

คำสำคัญ:

ระบบเฝ้าระวัง, คุณภาพแม่น้ำ, ผลกระทบต่อสุขภาพ, การมีส่วนร่วม, การวิจัยเชิงปฏิบัติการ

บทคัดย่อ

คุณภาพน้ำที่เสื่อมโทรมเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน          การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบเฝ้าระวังและติดตามผลกระทบต่อสุขภาพจากคุณภาพน้ำในลุ่มน้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก จังหวัดเชียงราย ผ่านความร่วมมือจากภาครัฐ ภาควิชาการ และชุมชน

          การวิจัยดำเนินการโดยใช้วงจร Plan-Act-Observe-Reflect กลุ่มตัวอย่างคือประชาชน 322 คนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มน้ำกก ลุ่มน้ำสาย และลุ่มน้ำรวก ใน 7 อำเภอของจังหวัดเชียงราย ได้แก่ อำเภอเมือง 132 คน อำเภอเวียงชัย 5 คน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง 22 คน อำเภอแม่จัน 29 คน อำเภอดอยหลวง 34 คนอำเภอเชียงแสน 48 คน และอำเภอแม่สาย 52 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสน้ำ ผ่านการคัดกรองด้วยแบบสอบถามและสมัครใจเข้าร่วมโครงการ ทีมวิจัยเก็บตัวอย่างน้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน น้ำประปาชุมชน พืชผัก สัตว์น้ำ และชีวะชี้วัดในปัสสาวะพร้อมสำรวจอาการและพฤติกรรมของประชาชน ผ่านระบบฐานข้อมูลออนไลน์ที่เชื่อมโยงข้อมูลสิ่งแวดล้อม และสุขภาพแบบเรียลไทม์ รวมถึงจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3 จุด

          ผลการศึกษาพบสารหนูในน้ำผิวดินเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะในลุ่มน้ำสายซึ่งมีความเข้มข้นสูงสุดถึง 0.05 มิลลิกรัม   ต่อลิตร และตรวจพบตะกั่วร่วมด้วยในบางพื้นที่ ระบบคัดกรองประชาชนครอบคลุมเกินร้อยละ 85 สูงสุดที่อำเภอเชียงของร้อยละ 90.7 ระบบแจ้งเตือนออนไลน์ และการสื่อสารความเสี่ยงช่วยให้ตอบสนองได้รวดเร็ว ประชาชนปรับพฤติกรรมอย่างมีนัยสำคัญ แม้ชีวะชี้วัดในปัสสาวะของกลุ่มเสี่ยงยังอยู่ในค่าปกติและไม่พบอาการเฉียบพลันแต่ต้อง  มีการกำกับควบคุมมลพิษ ตรวจวัดคุณภาพน้ำรายสัปดาห์ และตรวจสุขภาพกลุ่มเสี่ยงทุกหกเดือนเพื่อความยั่งยืน การบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมีประสิทธิผลในการพัฒนาระบบเฝ้าระวังที่ทันท่วงที เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพน้ำและปกป้องสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

เอกสารอ้างอิง

ราชบัณฑิตยสถาน. ภูมิศาสตร์และภูมิประเทศของประเทศไทย. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน; 2557. 2. สำนักงานสถิติจังหวัดเชียงราย. รายงานสถิติประจำปีจังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2566. เชียงราย: สำนักงานสถิติจังหวัด; 2566.

สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1. รายงานสถานการณ์คุณภาพน้ำผิวดินและตะกอนดิน จังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2568. เชียงใหม่: สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1; 2568.

World Health Organization. Arsenic fact sheet. Geneva: WHO; 2018.

สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1. รายงานการติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำเชียงราย พ.ศ. 2567. เชียงใหม่: สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1; 2567. 6. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย. รายงานเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากคุณภาพน้ำ จังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2567. เชียงราย: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด; 2567.

Kemmis S, McTaggart R, Nixon R. The action research planner: Doing critical participatory action research. Singapore: Springer; 2014.

McTaggart R. Participatory Action Research: International Contexts and Consequences. New York: State University of New York Press; 1997.

กรมควบคุมโรค. คู่มือการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพจากสิ่งแวดล้อม. กรุงเทพฯ: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2565.

Nutbeam D. Health literacy as a public health goal: A challenge for contemporary health education and communication strategies into the 21st century. Health Promote Int. 2000;15(3):259–67.

World Health Organization. Arsenic fact sheet. Geneva: WHO; 2018.

Creswell JW. Research design: Qualitative, and mixed methods approach. 4th ed. Thousand Oaks (CA): Sage Publications; 2014.

กรมอนามัย. แบบสอบถามการสำรวจด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน. กรุงเทพฯ: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข; 2564.

Tavakol M, Dennick R. Making sense of Cronbach’s alpha. Int J Med Educ. 2011; 2:53–5.

United States Environmental Protection Agency (USEPA). Methods for chemical analysis of water and wastes. Washington DC: USEPA; 2017.

Navas-Acien A, Silbergeld EK, Pastor-Barriuso R, Guallar E. Arsenic exposure and prevalence of type 2 diabetes in US adults. JAMA. 2008;300(7):814–22.Sathianchan S.

Chronic arsenic poisoning in Ron Phibun District, Nakhon Si Thammarat Province, Thailand. Thai J Public Health. 2025;55(1):45–58.

Global Witness. Myanmar’s poisonous gold: Cross-border mining pollution report. London: Global Witness; 2024.

Berg M, Stengel C, Trang PTK, Viet PH, Sampson ML. Magnitude of arsenic pollution in the Mekong and Red River deltas - Cambodia and Vietnam. Sci Total Environ. 2008;372(2–3):413–25.

International Agency for Research on Cancer (IARC). Arsenic, metals, fibers, and dusts. IARC monographs on the evaluation of carcinogenic risks to humans. Vol. 100C. Lyon: IARC; 2012.

Moon KA, Guallar E, Umans JG, Devereux RB, Best LG, Francesconi KA, et al. Association between exposure to low to moderate arsenic levels and incident cardiovascular disease. Ann Intern Med. 2013;159(10):649–59.

United Nations Environment Program (UNEP). Guidance on pollutant release and transfer registers (PRTRs). Nairobi: UNEP; 2019.

Agency for Toxic Substances and Disease Registry (ATSDR). Toxicological profile for arsenic. Atlanta (GA): US Department of Health and Human Services; 2022.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-11-11

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ทองสุข ส. การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพเชิงรุกจากคุณภาพน้ำ ในลุ่มน้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก จังหวัดเชียงราย: Action Research for Developing a Proactive Health Surveillance System Related to Water Quality in the Kok, Sai, and Ruak River Basins, Chiang Rai Province, Thailand. J ChiangRai Health Off [อินเทอร์เน็ต]. 11 พฤศจิกายน 2025 [อ้างถึง 29 ธันวาคม 2025];2(3):30-41. available at: https://he04.tci-thaijo.org/index.php/jcrpho/article/view/3794