การพัฒนาเทคนิคในการถ่ายภาพเอกซเรย์ช่องท้องระบบดิจิทัลเพื่อลดปริมาณรังสีที่ผิวผู้ป่วยได้รับ

Optimization of Digital Abdominal X-ray Imaging Techniques to Reduce Radiation Dose.

ผู้แต่ง

  • สมศักดิ์ สนิท โรงพยาบาลเชียงแสน

คำสำคัญ:

ภาพเอกซเรย์ช่องท้อง , ปริมาณรังสีที่ผิวผู้ป่วยได้รับ , ค่าดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของปริมาณรังสี

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเทคนิคการถ่ายภาพรังสีช่องท้องระบบดิจิทัล           ที่สามารถลดปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับ แต่ยังคงคุณภาพของภาพที่เพียงพอต่อการวินิจฉัย รวบรวมข้อมูล ได้แก่ เพศ อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง ความหนาของส่วนที่ตรวจ kV, mAs และค่า DI ซึ่งเป็นดัชนีสำคัญในการควบคุมคุณภาพภาพรังสี เนื่องจากแสดงระดับความเหมาะสมของปริมาณรังสี หากค่าอยู่ในช่วง -3 ถึง 3 จะหมายถึงภาพมีคุณภาพเพียงพอต่อการวินิจฉัยและปลอดภัยต่อผู้ป่วย เก็บข้อมูลช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 จำนวน 82 ราย มาคำนวณปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับ                  และวิเคราะห์เพื่อสร้างเทคนิคในการให้ปริมาณรังสีในการถ่ายภาพเอกซเรย์ช่องท้องขึ้นมาใหม่

            ผลการศึกษาพบว่า หลังการพัฒนาเทคนิคปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับลดลงจากเดิม 1.43 mGy เป็น 1.31 mGy คิดเป็นร้อยละ 8.39 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.024) ต่ำกว่าค่าปริมาณรังสีอ้างอิงในการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยทางการแพทย์ของประเทศไทย พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ หลังการพัฒนาเทคนิคภาพถ่ายทั้งหมดอยู่ในช่วงค่าดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของปริมาณรังสีที่เหมาะสม (-3 < DI < 3) เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 39.02 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า ค่ากระแสหลอดคูณเวลา (mAs)   มีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับสูงกับปริมาณรังสีที่ผิวผู้ป่วยได้รับ (r = 0.825, p < 0.001)ความหนาของช่องท้องมีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับปานกลาง (r = 0.432, p < 0.001) และค่าความต่างศักย์ไฟฟ้า (kVp) มีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับต่ำ               (r = 0.160, p = 0.005) ไม่พบปัจจัยใดที่มีความสัมพันธ์กับค่าดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของปริมาณรังสี การลดลงของปริมาณรังสีมีค่า Cohen’s d = 0.51 ซึ่งแสดงถึงขนาดอิทธิพลระดับปานกลาง และค่า r = 0.25 สะท้อนถึงความแตกต่างที่มีนัยสำคัญและมีความหมายทางคลินิก

            การศึกษานี้มีประโยชน์ต่อทั้งผู้ป่วยและแพทย์ โดยช่วยลดความเสี่ยงจากรังสีของผู้ป่วย และยังช่วยให้ภาพถ่าย            มีคุณภาพที่ดีขึ้นเพื่อการวินิจฉัยโรค สามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาเทคนิคการถ่ายภาพรังสีส่วนอื่นๆ ต่อไป อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้มีข้อจำกัดบางประการ ได้แก่ การเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพียงแห่งเดียว ผู้ปฏิบัติงานจำนวนจำกัด              ทำให้ผลลัพธ์อาจไม่สามารถสะท้อนถึงประชากรทั้งหมดได้ ข้อเสนอแนะในการวิจัยต่อไป ควรขยายการศึกษาไปยังหลายสถาบัน รวมถึงควรทดลองกับผู้ป่วยที่มี ดัชนีมวลกาย (BMI) สูงหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กว้างขึ้น

เอกสารอ้างอิง

Williams B, et al. Clinical applications of abdominal radiography: A comprehensive review. Radiol Clin North Am. 2021;59(4):567-80.

International Atomic Energy Agency. Radiation protection in diagnostic radiology. IAEA Technical Reports Series No. 457. Vienna: IAEA; 2021.

National Council on Radiation Protection and Measurements. Health effects of low-level radiation exposure. NCRP Report No. 136. Bethesda (MD): NCRP; 2020.

World Health Organization. Radiation protection in medicine. WHO Technical Report Series 1000. Geneva: WHO; 2022.

สมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทย. รายงานสถานการณ์การใช้รังสีทางการแพทย์ในประเทศไทย พ.ศ. 2565. กรุงเทพฯ: สมาคมรังสีเทคนิคแห่งประเทศไทย; 2565.

Marshall NW, Faulkner K, Busch HP, Marsh DM, Pfening H. A comparison of radiation dose in examination of the abdomen using different radiological imaging techniques [Internet]. 2014 [cited 2024 Nov 9]. Available from: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/8193895

สุชาวลี เชื้อมหาวัน, ศิริวรรณ บุญชูรัตน์. คู่มือการวัดค่าปริมาณรังสีที่ใช้ในการถ่ายภาพรังสีด้วยเครื่องเอกซเรย์วินิจฉัยทั่วไป [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [สืบค้นเมื่อ 9 ม.ค. 2567]; สืบค้นจาก: https://webapp1.dmsc.moph.go.th/petitionxray/web3/downloadproject.pdf

บรรจง เขื่อนแก้ว, วิชัย วิชชาธรตระกูล, เอมอร ไม้เรียง, ปนัสดา อวิคุณประเสริฐ, คฑายุทธ นิกาพฤกษ์. การประเมินค่าดัชนีชี้วัดปริมาณรังสีในการถ่ายภาพทรวงอกท่า PA จากระบบการสร้างภาพรังสีด้วยคอมพิวเตอร์ของผู้ป่วยที่รับบริการในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วารสารเทคนิคการแพทย์เชียงใหม่. 2014;47(1):23-9.

โกศล อยู่พรหม. การประเมินข้อมูลการให้บริการถ่ายภาพรังสีทรวงอกด้วยระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ของทารกแรกคลอดในหอผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์. วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล. 2563; 5(2): 16-27.

ประภัสสร ไกรหาญ และดวงฤดี สุภมาตย์. การประเมินค่าดัชนีชี้วัดปริมาณรังสี (Exposure index:EI, Deviation index :DI) ในการถ่ายภาพทรวงอกเด็กอายุ 0-12 ปี โรงพยาบาลสิรินธร จังหวัดขอนแก่นวารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา. 2564; 6(4): 18-27.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-30

รูปแบบการอ้างอิง

1.
สนิท ส. การพัฒนาเทคนิคในการถ่ายภาพเอกซเรย์ช่องท้องระบบดิจิทัลเพื่อลดปริมาณรังสีที่ผิวผู้ป่วยได้รับ: Optimization of Digital Abdominal X-ray Imaging Techniques to Reduce Radiation Dose. J ChiangRai Health Off [อินเทอร์เน็ต]. 30 สิงหาคม 2025 [อ้างถึง 2 กันยายน 2025];2(2):1-11. available at: https://he04.tci-thaijo.org/index.php/jcrpho/article/view/2993