ผลของการบริบาลเภสัชกรรมทางไกลต่อการควบคุมโรคหอบหืดในผู้ป่วยรับยาจาก โรงพยาบาลเชียงแสน: การวิจัยแบบก่อน - หลังกลุ่มเดียว
Effects of Tele Pharmacy-Based Pharmaceutical Care on Asthma Control among Medication Pick-Up Patients at Chiang Saen Hospital: A One-Group Pretest - Posttest Study
คำสำคัญ:
เภสัชกรรมทางไกล, การควบคุมโรคหอบหืด, เทคนิคการสูดพ่นยา, ความพึงพอใจ, ค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลของการให้บริบาลเภสัชกรรมด้วยบริการเภสัชกรรมทางไกลในผู้ป่วยโรคหอบหืด ดำเนินการวิจัยแบบทดลองกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยโรคหอบหืดจำนวน 26 ราย ที่ได้รับการติดตามและให้คำแนะนำผ่านระบบแอปพลิเคชัน Line Official Account เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ โดยประเมินผลลัพธ์ 3 ด้าน ได้แก่ ผลลัพธ์ด้านคลินิก คือการควบคุมอาการของโรคหอบหืด จำนวนครั้งที่เข้ารับการพ่นยาที่ห้องฉุกเฉินและ การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากอาการโรคหอบหืดกำเริบเฉียบพลัน จำนวนครั้งของการเกิดปัญหาจากการใช้ยา ความถูกต้องในการบริหารยาสูดพ่น ผลลัพธ์ด้านความเป็นมนุษย์ คือ ความพึงพอใจต่อระบบการให้บริบาลเภสัชกรรมด้วยบริการเภสัชกรรมทางไกล ผลลัพธ์ด้านเศรษฐศาสตร์ คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้ป่วยสามารถประหยัดได้จากการให้บริบาลเภสัชกรรมด้วยบริการเภสัชกรรมทางไกล
ผลการวิจัยพบว่าการควบคุมอาการโรคหอบหืดดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากร้อยละ 50 เป็น 84.62 (p<0.05) จำนวนครั้งที่เข้ารับการพ่นยาฉุกเฉินและการนอนโรงพยาบาลลดลง อัตราการเข้ารับการพ่นยาฉุกเฉินลดลงจาก 0.85 เป็น 0.35 ครั้ง/คน และอัตราการนอนโรงพยาบาลลดลงจาก 0.31 เป็น 0.08 ครั้ง/คน ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาลดลงจาก 18 ครั้ง เหลือเพียง 1 ครั้ง ลดลงร้อยละ 94.44 และจำนวนผู้ป่วยที่ใช้ยาสูดพ่นได้ถูกต้องทุกขั้นตอนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 26.92 เป็น 100.00 (p<0.05) ในด้านความรู้เรื่องโรค ยา และการดูแลตนเอง คะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 5.19 ± 0.71 เป็น 7.81 ± 0.02 (p<0.05) ความพึงพอใจต่อระบบการให้บริการอยู่ในระดับพึงพอใจมาก (4.78 ± 0.35) ในด้านเศรษฐศาสตร์ ผู้ป่วยสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายรวมได้เฉลี่ย 473.69±396.49 บาท ร้อยละ 47.34±26.90
การให้บริบาลเภสัชกรรมในผู้ป่วยโรคหอบหืดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมอาการของโรค ส่งเสริมการใช้ยาอย่างถูกต้อง ลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับยา เพิ่มพูนความรู้และความเข้าใจของผู้ป่วย รวมถึงเพิ่มระดับความพึงพอใจและลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ จึงเป็นแนวทางการดูแลที่เหมาะสมและสามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
เอกสารอ้างอิง
สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคหอบหืดในผู้ใหญ่ พ.ศ. 2566 [อินเทอร์เน็ต].กรุงเทพฯ: สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย; 2566 [เข้าถึงเมื่อ 4 ก.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.thoracic.or.th
กรมการแพทย์. คู่มือการดำเนินงาน Service Plan สาขาโรคหอบหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง พ.ศ. 2566 [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2566 [เข้าถึงเมื่อ 15 ก.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.dms.moph.go.th
กระทรวงสาธารณสุข. ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (Health Data Center: HDC) [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2567 [เข้าถึงเมื่อ 20 ส.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://hdc.moph.go.th/cri/public/main
ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องเภสัชกรรม. การให้บริการเภสัชกรรมทางไกล (Tele pharmacy) รุ่นที่ ๑ โดยสภาเภสัชกรรม. [อินเตอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 11 ก.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก:https://ccpe.pharmacycouncil.org/index.php?option=seminar_detail&subpage=seminar_detail&id=4497
Wattanatham K, Thippayom T, Fueangchan A. Models and outcomes of telepharmacy services. Isan J Pharm Sci. 2021;17(3):1–15.
Nuallaong P, Thavornwattanayong W. Outcomes of telepharmacy on asthma control in Ratchaburi Hospital [master’s thesis]. Nakhon Pathom: Faculty of Pharmacy, Silpakorn University; 2021.
Brown W, Scott D, Friesner D, Schmitz T. Impact of telepharmacy services as a way to increase access to asthma care. Journal of Asthma and Allergy. 2017;54(9):961-7.
กรมการแพทย์. แนวทางการจัดบริการคลินิกโรคหอบหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างง่าย (EACC) [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2564 [เข้าถึงเมื่อ 2 ส.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.dms.moph.go.th
Global Initiative for Asthma (GINA). Global Strategy for Asthma Management and Prevention [Internet]. 2023 update. Available from: https://ginasthma.org
สภาเภสัชกรรม. คู่มือทักษะตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม (สมรรถนะร่วม) พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: สภาเภสัชกรรม; 2562.
The Pharmaceutical Care Network Europe (PCNE). Classification for drug related problems V9.1 [Internet]. The Netherlands: PCNE; 2020.
นิตยา จงจิตร. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคหอบหืด. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี; 2563.
Bynum A, Irwin C, Cranor C, et al. Use of tele pharmacy to improve adherence to asthma medications. Telemed J E Health. 2001;7(3):281–6.
Poudel A, Nissen LM. Tele pharmacy: A pharmacist’s perspective on the clinical benefits and challenges. Integrated Pharmacy Research & Practice. 2018;7:75–82.
Young HN, Havican SN, Griesbach S, Thorpe JM, Chewning BA, Sorkness CA. Patient and Pharmacist telephonic encounters (PARTE) in an underserved rural patient population with asthma: results of a pilot study. Telemedicine and e-Health. 2012;18(6):427-33
Songdachakaiwut P. A study of the effects of pharmaceutical care on the control of asthma in outpatients, Don Tum Hospital, Nakhon Pathom Province. J Environ Community Health. 2022;7(2):May–Aug. Received 2022 Jul 29; Accepted 2022 Aug
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และบุคลากรท่านอื่น ในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว