ผลการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผนต่อความรู้และการปฏิบัติตัวของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็ก โรคปอดบวมที่มารับการรักษาที่หอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 1 โรงพยาบาลสงขลา

ผู้แต่ง

  • อารม ฤทธิเดช
  • กิตติพร เนาว์สุวรรณ -

คำสำคัญ:

การให้ข้อมูล, ความรู้, การปฏิบัติตัว, ผู้ดูแล, โรคปอดบวม

บทคัดย่อ

การวิจัยแบบกึ่งทดลองแบบหนึ่งกลุ่มวัดหลังการทดลองมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคะแนนความรู้และการปฏิบัติตัวของผู้ดูแลในการดูแลผู้ป่วยโรคปอดบวมก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ดูแลของเด็กที่ป่วยด้วยโรคปอดบวมที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 1 โรงพยาบาลสงขลา จำนวน 34 คน คำนวณโดยใช้โปรแกรม G* Power และใช้วิธีสุ่มแบบเจาะจงเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แนวทางการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผนแบบวัดความรู้และการปฏิบัติตัวของผู้ดูแล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาสถิติ Wilcoxon signed ranks testและ Dependent t test ผลการวิจัยพบว่า (1) หลังให้ข้อมูลคะแนนเฉลี่ยความรู้ในการดูแลผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคปอดบวม (M = 8.65, SD = 0.98) สูงกว่าก่อนให้ข้อมูล (M = 6.15, SD = 1.31) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และ (2) หลังให้ข้อมูลคะแนนเฉลี่ยการปฏิบัติตัวในการดูแลผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคปอดบวม (M = 2.81, SD = 0.12) สูงกว่าก่อนให้ข้อมูล (M = 2.10, SD = 0.33) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 พยาบาลวิชาชีพควรนำแนวทางการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผนไปปรับใช้โดยจัดทำเป็นสื่อวิดีทัศน์เพื่อให้ผู้ป่วยผู้ดูแล ญาติได้นำไปปฏิบัติตลอดจนขยายผลไปยังคลินิกแผนกผู้ป่วยนอกโดยการให้ความรู้เชิงรุก การแลกเปลี่ยนรู้ และการใช้สถานการณ์มาเป็นตัวอย่างในการให้ความรู้

References

กองระบาดวิทยา. (2564). ข้อมูลโรคติดต่อจากฐานข้อมูลเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยา. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์์ 2567 จาก https://www.hiso.or.th/thaihealthstat/area/index.php?ma=1&pf=01818101&tp=231

กองระบาดวิทยา. (2567). โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 จากhttps://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2//filesแจ้งการเตือน%201.10.2024.pdf.

กองระบาดวิทยา. (2567). สถานการณ์โรคปอดอักเสบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 จาก http://www.khiansa.go.th/news/doc_download/เอกสารปอดอักเสบ_2_280624_091937 .pdf

จริยาวัตร คมพยัคฆ์ และวนิดา ดุรงค์ฤทธิชัย. (2553). แนวคิด หลักการ และการปฏิบัติการพยาบาล. สมุทรปราการ; สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.

ทิพย์ภารัตน์ ไชยชนะแสง, อัจฉรา วริลุน, อุมาสมร หังสพฤกษ์, เอมอร ทาระคำ, ภัณฑิรา คำหล่อ. (2562). ผลของโปรแกรมการสอนแนะต่อพฤติกรรมการดูแลของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบ อายุ 1-2 ปีที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 37(4), 206-215.

นราทิพ อุดแก้ว, ธงทิพย์ วัฒนชัย, เพชรา ประทับช้าง และจันทิมา นวะมะวัฒน์. (2566). การพัฒนาโปรแกรมการพยาบาลผู้ป่วยเด็กปอดอักเสบด้วย E-Nursing ในหอผู้ป่วย. วารสารแพทย์เขต 4-5, 42(2), 237-251.

นิภาพร หลีกุล และสุวิณี วิวัฒนวานิช. (2557). ผลของการใช้การวางแผนจำหน่ายต่อการกลับมารักษาซํ้าของผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบและความพึงพอใจของผู้ดูแล สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี. วารสารวิทยาลัยบรมราชชนนี กรุงเทพ, 30(3), 87-96.

ภาวิณี ช่วยแท่น, ภรณี วัฒนสมบูรณ์ และสุปรียา ตันสกุล. (2563). ผลของโปรแกรมสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมป้องกันการกลับมารักษาซ้ำในมารดาเด็กโรคปอดอักเสบ. วารสารสุขศึกษา, 43(1), 12-24.

โรงพยาบาลสงขลา. (2567). รายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ. สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข.

วนิดา แสนพุก, สุดใจ ศรีสงค์ และเพ็ญจุรี แสนสุริวงศ์. (2563). การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบ. วารสารกองการพยาบาล, 47(1), 153-172.

วราภรณ์ ผาทอง, รัตนภรณ์ ภุมรินทร์, ศิริขวัญ สุธรรมกิตติคุณ และชื่นจิตต์ สมจิตต์. (2563). ประสิทธิผลของการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยเด็กโรคปอดอักเสบโรงพยาบาลแพร่. วารสารโรงพยาบาลแพร, 28(2), 36-49.

วิภาธินี หน่อจันทร์, วรรณทนีย์ ภูมิอภิรดี, กิตติพร เนาว์สุวรรณ. (2565). ผลการใช้โปรแกรมการสอนต่อความรู้ของผู้ดูแลเด็กและการเกิดซ้ำของโรคปอดอักเสบในผู้ป่วยเด็กที่เข้ารับการรักษา ณ คลินิกกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์. วารสารวิจัยการพยาบาลและการสาธารณสุข, 2(2), 1-11.

วิภารัตน์ สุวรรณไวพัฒนา, รุ่งตะวัน ม่วงไหมทอง, รุ่งทิพย์ เขาโคกกรวด, ลูกเกด เสนพิมาย และ สาวิตรี พาชื่นใจ. (2559). บทบาทพยาบาล: ความท้าทายในการปองกันการกลับเป็นซ้ำของโรคปอดอักเสบในเด็กเล็ก. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา, 22(1), 121-130.

อารม ฤทธิเดช. (2567). ผลการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผนต่อความรู้และการปฏิบัติตัวของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กโรคปอดบวมที่มารับการรักษาที่หอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 1 โรงพยาบาลสงขลา. BCNNON Open Access Online Journal, 1-15.

Cohen, J. (1988). Statistical power analysis for the behavioral sciences. (2nd). Hillsdale, NJ: Lawrence Erlbaum Associates, Publishers.

Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behavior Research Methods, 39(2), 175-191.

Orem, D. E., Taylor, S. G., & Renpenning, K. M. (2001). Nursing: Concepts of practice. St. Louis: Mosby.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

30-01-2025

How to Cite

ฤทธิเดช อ. ., & เนาว์สุวรรณ ก. (2025). ผลการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผนต่อความรู้และการปฏิบัติตัวของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็ก โรคปอดบวมที่มารับการรักษาที่หอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 1 โรงพยาบาลสงขลา. วารสารนวัตกรรมสุขภาพและความปลอดภัย, 2(1), E–2498. สืบค้น จาก https://he04.tci-thaijo.org/index.php/JHIS/article/view/2498