การพัฒนารูปแบบการลดพฤติกรรม การสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ในเกษตรกร ที่ปลูกต้นหอม ตำบลดงขวางอำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
คำสำคัญ:
การลดพฤติกรรม, การสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช, การมีส่วนร่วมของชุมชนบทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาและศึกษาผลการใช้รูปแบบการลดพฤติกรรม การสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ในเกษตรกร ที่ปลูกต้นหอม ตำบลดงขวางอำเภอเมือง
จังหวัดนครพนม ทำการสำรวจสภาพปัญหาในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 90 คน ที่มีผลเจาะเลือดหาระดับโคลีนเอสเตอเรส ในปี 2566 อยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ประกอบด้วย แบบสอบถาม และการสนทนากลุ่ม กิจกรรมการมีส่วนร่วมของชุมชน ได้แก่ การวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา วางแผนแก้ไขปัญหา ดำเนินการแก้ไขปัญหา การติดตามและประเมินผล โดยการอบรมให้ความรู้ สาธิตและฝึกปฏิบัติวิธีการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตราย การรณรงค์ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ให้ความรู้ผ่านทางเสียงตามสาย จัดทำแปลงสาธิตเกษตรอินทรีย์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยด้านความรู้ และการปฏิบัติตัวของเกษตรกรที่ปลูกต้นหอม ก่อนและหลังดำเนินการ โดยสถิติทดสอบ Paired t-test
ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรมีคะแนนเฉลี่ยของความรู้เกี่ยวกับสารกำจัดศัตรูพืชสูงกว่าก่อนดำเนินการ เท่ากับ 2.27 คะแนน (95%CI : 15.83 – 16.40) (p-value < 0.001) การปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้สารกำจัดศัตรูพืชสูงกว่าก่อนดำเนินการเท่ากับ 0.10 คะแนน (95%CI 2.10 – 2.15) (p-value < 0.001)
รูปแบบการลดพฤติกรรมการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน มีการวิเคราะห์ปัญหาร่วมกันระหว่างเกษตรกรและผู้นำชุมชน ผ่านการสนทนากลุ่ม ระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ สามารถพัฒนารูปแบบได้ดังนี้ 1) มีรูปแบบที่ชัดเจน และมีความตระหนักร่วมกัน 2) มีแผนงานโครงการ สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างเกษตรกรและผู้นำชุมชน ผู้รับผิดชอบชัดเจน 3) สามารถแก้ไขปัญหาและลดพฤติกรรมการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้อย่างครอบคลุม
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2566). แถลงผลโครงการสำมะโนการเกษตร พ.ศ. 2566. สืบค้น 25 ตุลาคม 2567 จาก http://nso.go.th/nsoweb/storage/upload_file/2024/2024111123314_35658.pdf
สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2566). คู่มือเกษตรปลอดโรค สำหรับเกษตรกรและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
โรงพยาบาลส่งเสิมสุขภาพตำบลดงขวาง. (2566, 6 ธันวาคม). รายงานผลการตรวจหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกร เอกสารนำเสนอ. การประชุมสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง, นครพนม.
วีรกิตติ์ เอกอัครวิจิตร. (2567). รูปแบบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการส่งเสริมให้เกิดชุมชนเข็มแข็ง. วารสาร ภักดิชุมพลปริทรรศน์, 2(2), 39-50.
อมร ทองรักษ์ และ รุ่งเรือง ลาดบัวขาว. (2564). ผลการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายเกษตรกรเพื่อลดการใช้สารเคมีกำจัดสัตรูพืชต่อระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสและปัจจัยเสี่ยงโรคเนื้อเน่า ในจังหวัดหนองบัวลำภู. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ, 15(3), 44-58.
Bloom, B. S., et al. (1971). Hand Book on Formative and Summative Evaluation of student Learning. New York: MCGraw-Hillbook Company
Best, J. W. (2006). Research in Education. 10 th ed. Boston: Allyn and Bacon.
Wilson, B. W., Arrieta, D. E. & Henderson, J. D. (2005). Monitoring cholinesterases to detect pesticide exposure. Chemico-biological interactions, 157, 253-256.

ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนวัตกรรมสุขภาพและความปลอดภัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารนวัตกรรมสุขภาพและความปลอดภัย ที่เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน บรรณาธิการ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารนวัตกรรมสุขภาพและความปลอดภัย