การพัฒนารูปแบบการคัดกรองเพื่อป้องกันการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ โดยประยุกต์ใช้ ปิงปองจราจร 7 สี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี

ผู้แต่ง

  • ชฎารัตน์ เหลืองอร่าม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี

คำสำคัญ:

รูปแบบการคัดกรองการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ, ประยุกต์ใช้ปิงปองจราจร 7 สี

บทคัดย่อ

การศึกษารูปแบบการวิจัยและพัฒนา (The Research and Development : R&D) ครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการรูปแบบการคัดกรองเพื่อป้องกันการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี การพัฒนารูปแบบการคัดกรองเพื่อป้องกันการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุโดยประยุกต์ใช้ ปิงปองจราจร 7 สี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี และประเมินการรับรู้เกี่ยวกับรูปแบบการคัดกรองและรับรู้ตนเองเกี่ยวกับดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ
โดยประยุกต์ใช้ ปิงปองจราจร 7 สี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แนวทางการสนทนากลุ่ม แนวทางการสัมภาษณ์เชิงลึก และรูปแบบการคัดกรองเพื่อป้องกัน
การเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา การหาค่า Paired simple t-test และการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีเห็นว่ารูปแบบการคัดกรองสุขภาพแบบเดิมมีลักษณะเป็นเพียง
การสอบถามแล้วนำมาประมวลผลเป็นตัวเลข ซึ่งยากต่อการสื่อสารและทำความเข้าใจในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องอธิบายผลการคัดกรองให้ผู้สูงอายุเข้าใจ จึงเสนอให้มีการพัฒนารูปแบบการคัดกรองให้มีลักษณะที่เข้าใจง่าย ชัดเจน และสะดวกต่อการสื่อสาร จากการเปรียบเทียบผลระหว่างรูปแบบการคัดกรองแบบเดิมกับรูปแบบการคัดกรองที่พัฒนาขึ้นโดยประยุกต์ใช้ ปิงปองจราจร 7 สี พบว่าค่าเฉลี่ยของการรับรู้
รูปแบบเดิม M = 3.93 ขณะที่ค่าเฉลี่ยหลังการใช้รูปแบบใหม่  M  =4.56 ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในระดับ 0.05 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของรูปแบบใหม่ในการส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการคัดกรองสุขภาพ
ในกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ผลการประเมินความพึงพอใจของเจ้าหน้าที่และผู้สูงอายุต่อรูปแบบการคัดกรอง
ที่พัฒนาขึ้นอยู่ในระดับมาก และผลการประเมินการรับรู้ตนเองในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุพบว่าอยู่ในระดับสูง (M = 2.85 SD.=.45) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่าการรับรู้ตนเองเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพส่วนใหญ่
อยู่ในระดับสูงมาก

เอกสารอ้างอิง

กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2567). คู่มือการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน [PDF]. สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2567,

จาก http://agingthai.dms.go.th/agingthai/wp-content/uploads/2021/01/book_5.pdf

กรมอนามัย. (2563). เครื่องมือปิงปองจราจร 7 สี: แนวทางการคัดกรองสุขภาพประชาชนในชุมชน. นนทบุรี:กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.

กรมอนามัย. (2567). รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุในประเทศไทย ปี 2567. นนทบุรี: สำนักส่งเสริมสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข.

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2561). คู่มือส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุและป้องกันภาวะสมองเสื่อมสำหรับประชาชน “ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย”. นนทบุรี: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2563). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ Health Literacy (HL) [อินเทอร์เน็ต]. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2568, จาก https://mwi.anamai.moph.go.th/th/mwi-hl/download/?did=198252

Health Data Center, กระทรวงสาธารณสุข. (2566). ข้อมูลสุขภาพ [อินเทอร์เน็ต]. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2567, จาก https://hdcservice.moph.go.th

นฤมล ปิ่นพรม, และคณะ. (2567). การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการของผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส. วารสารสิ่งแวดล้อมศึกษาการแพทย์และสุขภาพ, 9(4), 588–593.

พิชิต ไชยฤทธิ์. (2567). ประสิทธิผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้วยเครื่องมือปิงปองจราจร 7 สี

ของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองรำ ตำบลทุ่งหมอ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา. ในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา (บ.ก.), เผยแพร่ผลงานวิชาการ. สงขลา: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา.

มินรดา อุ่นหน้อย. (2561). ศึกษาผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามปิงปองจราจรชีวิต 7 สี วิชัยโมเดลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานในเขตตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยพะเยา].

รวิวรรณ คำเงิน และคณะ. (2566). ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพตามแนวคิด สบช.โมเดล ร่วมกับเครื่องมือปิงปองจราจรชีวิต 7 สี ต่อความรู้และพฤติกรรมสุขภาพในนักศึกษาพยาบาลที่มีภาวะน้ำหนักเกิน. วารสารวิจัยทางสุขภาพ, 6(2).

วีรพล กิตติพิบูลย์ และนิธิรัตน์ บุญตานนท์. (2563). การพัฒนารูปแบบการคัดกรองและส่งเสริมสุขภาวะเพื่อป้องกันการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุตามแนวคิด “ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย”. วารสารสาธารณสุขและการพัฒนา, 14(34), 158–171.

อัญชิษฐฐา ศิริคำเพ็ง และภักดี โพธิ์สิงห์. (2560). การดูแลผู้สูงอายุระยะยาวที่มีภาวะพึ่งพิงในยุคประเทศไทย 4.0. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 17(3), 235–243.

อมรรัตน์ แก้วสุวรรณ, กมลมาลย์ วิรัตน์เศรษฐสิน. (2567). การพัฒนารูปแบบป้องกันภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง จังหวัดนนทบุรี. J Roi Kaensarn Acad, 9(7).

Chunthawanich, S. (2010). Qualitative research methodology (17th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University. (in Thai)

Krippendorff, K. (2013). Content analysis: An introduction to its methodology (3rd ed.). Los Angeles, CA: SAGE Publications.

Prochaska, J. O. & DiClemente, C. C. (1984). The transtheoretical approach: Crossing traditional boundaries of therapy. Homewood, IL: Dow Jones-Irwin.

Ware, J. E., Jr. (2004). SF-36 health survey update. Spine (Phila Pa 1976), 29(21), 2188–2196.

World Bank. (2022). Global aging trends. Washington, DC: World Bank.

United Nations. (2023). World population prospects 2023. New York: United Nations.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

10-08-2025

รูปแบบการอ้างอิง

เหลืองอร่าม ช. . (2025). การพัฒนารูปแบบการคัดกรองเพื่อป้องกันการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ โดยประยุกต์ใช้ ปิงปองจราจร 7 สี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี . วารสารนวัตกรรมสุขภาพและความปลอดภัย, 2(2), E – 3343. สืบค้น จาก https://he04.tci-thaijo.org/index.php/JHIS/article/view/3343