Oral Health Care Behaviors of Preschool Children’s Parents in Khok-kruad Municipality, Muang District, Nakhon Ratchasima Province
Main Article Content
Abstract
Background: Preschool children cannot perform oral health care themselves. They need help from parents until they can do it when grow up. Objective: To explore the behaviors of the parents concerning oral health care of their preschool children. Material and Methods: By interviewing the parents of young children, 3.6 years of age, at young children center of Khok-Krund Municipality, according the verified questionnaire in January 2004. Results: There were 55 parents recruited, majority were female, mean age 38.4±12.0 years. Most graduated from primary and secondary school, were employees or agriculturists. The level of knowledge about oral health care was fair, 58.2%. They did not Know the proper time of tooth brushing, numbers of deciduous teeth left, the time of eruption of first permanent tooth, early signs of dental caries. Their attitude about oral health was good, 65.5%. However here were some incorrect attitudes. The parents let the children brush the teeth without supervision. In case of active dentoalveolitis, the tooth should not be treated or extracted. Premature extraction of deciduous teeth could disturb the adjacent nerve. And they wondered whether the native fumigating procedure could remove the worms causing dental caries. The oral health behaviors of preschool children was moderately correct around 69.1%. Some behaviors were not correct, eg. selection crispy snack for children. The good behaviors were not much performed, eg. promoting mouth washing after eating, dental examination every 6 months, checking or repeating tooth brushing done by children. Finally the preschool children had dental caries 63.4%. Conclusion: Most of preschool children’s parents had moderate degree of knowledge about oral health. And main problem of these children was dental caries.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
สุรางค์ เชษฐพฤนท์, เพ็ญทิพย์ จิตต์จำนงค์, บุบผา ไตโรจน์.ศรีสุดา ลีละศิธร.ผลการสำรวจสภาวะโรคฟันฟันผุของเด็กไทยวัยก่อนเรียน อายุ 3 ปี พ.ศ. 2545.
กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือสำหรับผู้ดูแลเด็ก และครูในการดำเนินงานทันตสาธารณสุขในเด็กก่อนวัยเรียน. กรุงเทพมหานคระ กระทรวงสาธารณสุข; 2536.
นาถนรินทร์ หอสัจจกุล. ความสัมพันธ์ของความรู้และการปฏิบัติงานด้านทันตสาธารณสุขของแม่ต่อลูกวัย 3 ปี กับสภาวะโรคฟันผุของลูกในเขตกรุงเทพมหานคร.วิทยาสารทันตแพทธศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2539; 19: 227-34.
ละเอียด ดิมฐ์เเย้ม. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการ เลี้ยงดูลูกที่เกี่ยวข้องกับหันตสุขภาพ. นิตยสารโรงพยาบาลกลาง 2540; 34: 63-70.
พงษ์ศักดิ์ วัฒนา. เด็กฟันผุมาจากบริโภคไม่เป็น. กฤตภาคข่าวอนามัยแม่และเด็ก 2537; 4: 61.
ทันตภูธร กระทรวงสาธารณสุข (2543). โครงการพัฒนาระบบการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากเล็ก 0-12 ปี บนฐานความเชื่อ การรับรู้ และพฤติกรรมของเด็ก และผู้ดูแลเด็ก. Available from http://www.rdhc.i.am.
ประภาพรรณ โภคะสุวรรณ. การประยุกต์แบบแผนความ เชื่อด้านสุขภาพร่วมกับกระบวนการกลุ่มและการกระตุ้น
เตือนต่อพฤติกรรมมารดาในการดูแลทันตสุขภาพด็กก่อนวัยเรียน. ภาคนิพนธ์หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล; 2543.
พัชรินทร์ เล็กสวัสดิ์ และคณะ. พฤติกรรมการดูแลทันต สุขภาพในช่องปากเด็กเล็กกรณีศึกษาหมู่ในภาคเหนือ. รายงานการวิจัย, เอกสารโรเนียว; 2537.
องค์กรผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย. ฟันดีมีใช้ตลอดชีวิต. พิมพ์ครั้งที่ 1. 2539.
ปรารถนา ฮู้ผลเอิบ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะทันต สุขภาพของนักเรียนอนุบาล ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง. รายงานการวิจัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง; 2541.
บุญเอื้อ ยงวานิชากร. สถานการณ์การดูแลสุขภาพช่องปาก และการใช้บริการทันตกรรมของประชาชน. วิทยาสารทันตสาธารณสุข 2544; 6: 105-17.
พัชราลักษณ์ เถื่อนนาดี, สุปรีดา อดุลอนนท์ การรับรู้เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากของชาวบ้าน: กรณีศึกมาป้ามะนาวอำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น. วิทยาสารทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2542; 2: 28-38.