สถานการณ์โรคฟันผุและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของเด็ก 18 - 72 เดือน ที่มารับบริการในคลินิกทันตกรรม ศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบ Cross sectional study มีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินสภาวะโรคฟันผุและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กอายุ 18-72 เดือน ที่มารับบริการในคลินิกทันตกรรม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพศูนย์อนามัยที่ 5 โดยทำการตรวจฟันและแผ่นคราบจุลินทรีย์ ในมารดาและเด็ก ศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคฟันผุจากแบบสอบถาม สำหรับผู้ปกครอง ในเรื่องข้อมูลทั่วไป ประวัติสุขภาพทั่วไป พฤติกรรมการบริโภค พฤติกรรมการดูดขวดนม และการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากเด็ก เด็กกลุ่มที่ศึกษามี 134 คน อายุเฉลี่ย 47.52 เดือน ค่าเฉลี่ยฟันน้ำนมผุ ถอน อุด 7.06+6.17 ซี่ต่อคน ในจำนวนนี้มีเด็กปราศจากฟันผุ 38 คน (ร้อยละ 28.4) เด็กส่วนมาก (ร้อยละ26) มีค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด ประมาณ 6-10 ซี่ต่อคน ปัจจัยที่ป้องกันฟันผุอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05)มี 5 ปัจจัย ได้แก่ การได้รับฟลูออไรด์เสริม การดูดน้ำตามหลังจากการดูดขวดนม การเริ่มทำความสะอาดช่องปากให้ทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี ผู้ ปกครอง มีการศึกษาสูงกว่ามัธยมปลาย และการดื่มนมเป็น อาหารว่างแทนขนมหวานส่วนปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดโรคฟันผุอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05) มี 3 ปัจจัย คือ การรับประทานของหวานและขนมกรุบกรอบเป็นประจำ การหลับคาขวดนม และปริมาณแผ่นคราบจุลินทรีย์ จากการวิเคราะห์โดยวิธี มัลติวาริเอดโลจิสติก รีเกรสชั่น (multivariate logistic regression) พบว่าการดูดขวดนมขณะหลับเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดฟันผุ จากการศึกษาสามารถทำนายได้ว่ากลุ่มเด็กที่ดูดนมขณะหลับเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคฟันผุ
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
Yaseen SM, Naik Uloopi KS. Ectopic eruption-A review and case report. Contemp Clin Dent 2011; 2: 3-7.
กระทรวงสาธารณสุข. กรมอนามัย. สำนักทันตสาธารณสุข. รายงานผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 7 พ.ศ. 2555. กรุงเทพมหานคร: สำนักกิจการองค์การทหาร ผ่านศึก. 2551; 40-1.
ระวีวรรณ ปัญญางาม และยุทธนา ปัญญางาม. การเปรียบเทียบสถานภาพโรคฟันผุของเด็ก กลุ่มอายุ 3 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร ที่บริโภคนมรสหวาน. วารสารทันต 2538; 46: 196-202.
ปิยะดา ประเสริฐสม และศรีสุดา ลีละศิธร. รายงานผลโครงการศึกษาสถานการณ์และแนวโน้มของปัญหาตลอดจนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทันตสาธารณสุขระดับอำเภอ. พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2542; 33-7.
เศวต ทัศนบรรจง. การสูญเสียฟันน้ำนมในเด็ก. วิทยาสารทันตแพทย์ศาสตร์ ก.ค.-ธ.ค. 2540; 37: 186-94.
O’ Sllivan DM, Tinanoff N. The association of early dental patterns with caries Incidence in preschool children. J Public Health Dent 1999; 56: 81-3.
ชุติมา ไตรรัตน์วรกุล และคณะ. พฤติกรรมการเลี้ยงลูกด้วยนมและปัจจัยที่สัมพันธ์กับอัตราผุ ถอน อุด ในเด็กก่อนวัยเรียนกลุ่มหนึ่ง. วิทยาสารทันตแพทย์ ก.ย.-ต.ค. 2548; 43: 259-68.
Schroder U, Granath L Dietary habits and oral hygiene as predictors of caries in 3-year-old children. Comm Dent Oral Epidem 1983; 11: 208-11.
Litt M, Reisine S. Tinanoff N. Multidimentional causal model of dental caries development in low-income pre-school children. Public Health Rep 1995; 110: 607-17.
Harris R, Nicoll AD, Adair PM, Pine CM. Risk factors for dental caries in young Children; a systematic review of literature. Community Dent Health 2004; 21: 71-85.
Quartey JB, Williamson DD, Prevalence of early childhood caries at Harris County Clinics. J Dent child 1999; 65: 127-31.
Wei SHY, Holm AK, Tong LSM, Yuen SWH. Dental caries prevalence and related factors in 5-year-old children in Hong Kong. Pediatr Dent 1993; 15: 116-9.
The American Academy of Pediatric Dentistry. Oral health polices. Pediatr Dent (special issue) 1999; 21: 18.