ความสอดคล้องของผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ผิดปกติกับผลทางพยาธิวิทยา ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความสอดคล้องของผลการตรวจทางเซลล์วิทยาของเซลล์เยื่อบุปากมดลูกที่ผิดปกติ กับผลการตรวจทางพยาธิวิยา ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ผู้ป่วยและวิธีการ: เป็นการศึกษาย้อนหลังเชิงพรรณนา โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากเวชระเบียนงานเซลล์วิทยาและงานศัลยพยาธิวิทยา กลุ่มงานพยาธิวิทยากายวิภาค โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ.2555 ในกลุ่มสตรีที่เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกโดยวิธี Conventional Pap smear ผู้ที่พบความผิดปกติของเซลล์เยื่อบุปากมดลูกได้รับการตรวจติดตามด้วยกล้องส่องปากมดลูก (Colposcopic examination) และตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางด้านพยาธิวิทยาเพื่อยืนยันการวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูก โดยการตัดชิ้นเนื้อจากปากมดลูก (Cervical biopsy), การตัดชิ้นเนื้อโดยใช้ colposcope ชี้นำ (Colposcopic directed biopsy: CDB), การขูดมดลูก (Endocervical curettage: ECC หรือ Endometrial curettage: EMC) รวมทั้งการตัดปากมดลูกออกเป็นรูปกรวยโดยใช้ลวดไฟฟ้า (Loop electrosurgical excision procedure: LEEP) และการผ่าตัดมดลูก (Hysterectomy) จากนั้นนำผลมาตรวจทางเซลล์วิทยาและผลทางพยาธิวิทยามาวิเคราะห์หาความสอดคล้องของการตรวจทั้งสองวิธี ผลการศึกษา: จากผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกโดยวิธี Conventional Pap smear จำนวน 6,987 รายในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ.2555 พบสตรีที่ผล Pap smear ผิดปกติจำนวน 192 ราย ในจำนวนนี้มีสตรีจำนวน 152 ราย ได้รับการตรวจยืนยันความผิดปกติทางพยาธิวิทยา โดยพบว่าผู้ที่มีผล Pap smear เป็น Low-grade squamous intraepithelial lesion (LSIL) มีผลทางพยาธิวิทยาเป็น LSIL ร้อยละ 50 เป็น High-grade squamous intraepithelial lesion (HSIL) ร้อยละ 20.8 และพบเป็น Invasive cancer ร้อยละ 8.3 สตรีที่มีผลPap smear เป็น HAIL มีผลทางพยาธิวิทยาเป็น HSIL และ Invasive cancer ร้อยละ 52.9 และ 29.4 ตามลำดับ สตรีที่ผล Pap smear เป็น Invasive cancer (SCCA และ ADC) มีผลทางพยาธิวิทยาเป็น HSIL ร้อยละ 16.7 และเป็น Invasive cancer ร้อยละ 83.3 สรุป: สตรีที่มีผล Pap smear เป็น LSIL และ HSIL มีความสอดคล้องกับผลทางพยาธิวิทยา ร้อยละ 50 ในขณะที่ Invasive cancer พบความสอดคล้องของทั้ง 2 วิธีนี้สูงถึง ร้อยละ 83.3 แนะนำให้ส่งตรวจทางพยาธิวิทยา ในรายที่ผล Pap smear เป็น LSIL และ HSIL แต่ถ้าเป็น Invasive cancer ผลทางพยาธิวิทยาค่อนข้างเป็น Invasive cancer แน่นอนถึงร้อยละ 80
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
Khuhaprema T, Srivatanakul P, Attasana P, Sriplung H, Wiangnon S, Sumitsawan Y, eds. Cancer incidence in Thailand Volume V, 2001-2003. Bangkok; 2010. p. 52.
Smith JS, Lindsay L, Hoots B, Keys J, Franceschi S, Winer R, et al.Human papilloma virus type distribution in invasive cervical cancer and highgrade cervical lesions: a meta-analysis update. Int J Cancer 2007; 121: 621-32.
จตุพล ศรีสมบูรณ์. An update on HPV epidemiology, testing+vaccine. ใน: จตุพล ศรีสมบูรณ์, ประภาพร สู่ประเสริฐ, บรรณาธิการ. Cervical cancer prevention and treatment. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: จรัสธุรกิจ;2551. หน้า 1-28.
Solomon D, Davey D, Kurman R, Moriarty A, O'Connor D, Prey M, et al. The 2001 Bethesda System: terminology for reporting results of cervical cytology. JAMA 2002; 287:2114-9.
สายบัว ชี้เจริญ. ขั้นตอนการดูแลสตรีที่มีผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติ. ใน: เพชรินทร์ ศรีวัฒนกุล, ธีรวุฒิ ดูหะเปรมะ, สมยศ ดีรัศมี. บรรณาธิการ.แผนการดำเนินงานการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งปากมดลูกที่เหมาะสมในประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคระสำนักพิมพ์ บริษัท รำไทยเพรส จำกัด; 2547. หน้า 71-87.
Wright TC Jr, Cox JT, Massad LS, Twiggs LB, Wilkinson EJ. 2001 Consensus guidelines for the management of woman with cervical cytological abnormalities. JAMA 2002; 287: 2120-9.
กนกพร อิทธิวิศวกุล. ความสัมพันธ์ระหว่างผลการตรวจ Pap smear ที่ผิดปกติกับผลการตรวจทางพยาธิวิทยาของ ผู้ป่วยที่มารับบริการที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ระหว่างปี พ.ศ. 2548-2550. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา วารสารวิชาการ 2551; 37-45.
ศรีวรรณ เสมาชัย. การเปรียบเทียบผลการตัดชิ้นเนื้อจากปากมดลูกภายใต้กล้อง Colposcope กับผลชิ้นเนื้อจากการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยในการวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูกระยะลุกลาม ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา. เวชสารโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา2543;24: 13-20.
Arbyn M, Bergeron C, Klinkhamer P, MartinHirsch P, Albertus G. Siebers AG, Bulten J, Liquid compaired with conventional cervical cytology. Am Coll Obstet Gynecol. 2008; 111: 167-77.
The ALTS Group: Results of a randomized trial on the management of cytology interpretations of atypical squamous cells of uncetermined significance. Am J Obstet Gynecol 2003; 183: 1383-92.
ศรีวรรณ เสมาชัย. ลักษณะทางคลินิกของสตรีที่ผล Pap Smear เป็น atypical squamous cell of undetermined significance (ASC-US) utat low grade squamous cell intraepithelial lesion (LSIL) ที่เสี่ยงต่อการเกิดรอยโรคเท่ากับหรือรุนแรงกว่า high grade squamous cell intraepithelial lesion (HSIL) ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา. เวชสารโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 2551; 1 (ฉบับผนวก): S14-20.
Kietpeerakool C, Srisomboon J, Tantipslakom C, Suprasert P, Khunamornpong S, Nimmanhaeminda K, et al. Underlying pathology of women with "atypical squamous cells, cannot exclude highgrade squamous intraepithelial lesion"smears, in a region with a high incidence of cervical cancer. J Obstet Gynaecol Res 2008; 34: 204-9.
Jones BA, Novis DA. Follow-up of abnormal gynecologic cytology: a College of American Pathologists Q-Probes study of 16,132 cases from 306 laboratories. Arch Pathol Lab Med. 2000; 124: 665-7.
Lonky NM, Sadeghi M, Tsadik GW, Petitti D. The clinical significance of the poor correlation of cervical dysplasia and cervical malignancy with referral cytologic results. Am J Obstet Gynecol 1999; 181: 560-6.
Natural History of Cervical Cancer. In: Planning for Appropriate Cervical Cancer Prevention Programs. 2nd Ed. Path Program for Appropriate Technology in Health, 2000.