ผลสัมฤทธิ์โครงการค่ายแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เพื่อการแก้ปัญหาการใช้สารเสพติด ของเยาวชนในสถานศึกษา จังหวัดนครราชสีมา

Main Article Content

ธนะพงศ์ จินวงษ์
เผด็จ จินดา
จิตชนก กิจวิรัตน์

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ


            จังหวัดนครราชสีมาได้นำแนวคิดการปรับเปลี่ยนเจตคติและพฤติกรรมของนักเรียนกลุ่มเสี่ยงต่อการใช้สารเสพย์ติด (โดยเฉพาะยาบ้า) มาพัฒนารูแบบเป็น “ค่ายแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์” ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ถึงปีการศึกษา 2546-47 มีผู้ผ่านการอบรมทั้งสิ้น 3,586 คน จาก 68 ค่าย ในพื้นที่ 32 อำเภอ การศึกษาครั้งนี้เป็นการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการในกลุ่มนักเรียนที่ผ่านค่ายอบรมครบ 1 ปี เพื่อเป็นแนวทางปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายต่อไป


            วิธีการศึกษา เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาในพื้นที่นำร่อง 4 อำเภอ ได้แก่ อ.โนนสูง อ.สีคิ้ว อ.ปักธงชัย และ อ.ด่านขุนทด เก็บข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยใช้แบบประเมินตนเองของนักเรียนในด้านทัศนคติและพฤติกรรม และแบบสังเกตสำหรับ ครูและผู้ปกครองเด็ก เก็บข้อมูล 4 ครั้ง ได้แก่ ช่วงก่อนเข้าค่ายฯ, หลังจากเข้าค่าย 1 เดือน 4 เดือน และ 1 ปี ร่วมกับการสนทนากลุ่มนักเรียนที่ผ่านการอบรมไปแล้ว 1 ปี จำนวน 2 กลุ่ม (อ.สีคิ้ว และ อ.โนนสูง) จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาจัดประชุมระดมสมองร่วมกับคณะทำงานทั้ง 32 อำเภอ เพื่อสรุปบทเรียนอีกครั้ง


            ผลการศึกษา รวบรวมข้อมูลได้ 549 ชุด จากนักเรียนทั้งหมด 320 คน พบว่าระดับความสัมพันธ์ในครอบครัวและ ทัศนคติต่อการเห็นคุณค่าตัวเองมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ภายหลังจบค่ายจนถึง 1 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) พฤติกรรมการใช้สารเสพติดมีแนวโน้มลดลง ในช่วง 1-4 เดือนหลังจบค่ายแต่กลับเพิ่มขึ้นเมื่อผ่านไป 1 ปี ที่ติดตามผล ข้อมูลจากแบบสังเกตของผู้ปกครองจำนวน 354 ชุดและครู 186 ชุด พบว่าระดับความสัมพันธ์ในครอบครัวมีแนวโน้มดีขึ้น พฤติกรรมเสี่ยงของนักเรียนได้แก่ การหนีเรียน ขาดเรียน มาสาย สูบบุหรี่ และการดื่มเหล้ามีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ข้อมูลจากการสนทนากลุ่ม นักเรียนทั้ง 2 กลุ่มเห็นตรงกันว่าได้รับประโยชน์จากการเข้าค่าย โดยเฉพาะการเปลี่ยนทัศนคติเรื่องการเห็นคุณค่าของตนเอง ความมั่นใจว่าหลีกเลี่ยงและป้องกันตนเองได้ มีความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม นักเรียนสองกลุ่มให้ข้อมูลตรงกันว่าปัจจัยแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้สารเสพย์ติดยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น แหล่งมั่วสุมต่าง ๆ ในชุมชน


            ข้อเสนอแนะ ควรเพิ่มกิจกรรมในช่วง 4-12 เดือน ภายหลังจากจบค่ายเพื่อเป็นการกระตุ้นและเสริมระดับของทัศนคติและพฤติกรรมที่ถูกต้องไว้ ร่วมไปกับการปรับเปลี่ยนปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงและการใช้สารเสพติด ได้แก่ สิ่งแวดล้อมในครอบครัวและชุชน ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากผู้ปกครองและชุมชนเพื่อให้มีการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม




Article Details

How to Cite
1.
จินวงษ์ ธ, จินดา เ, กิจวิรัตน์ จ. ผลสัมฤทธิ์โครงการค่ายแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เพื่อการแก้ปัญหาการใช้สารเสพติด ของเยาวชนในสถานศึกษา จังหวัดนครราชสีมา. MNRHJ [อินเทอร์เน็ต]. 4 ตุลาคาม 2024 [อ้างถึง 30 มิถุนายน 2025];29(3):155-66. available at: https://he04.tci-thaijo.org/index.php/MNRHJ/article/view/2076
บท
นิพนธ์ต้นฉบับ

References

นิพนธ์ พัวพงศกร และคณะ.การประมาณการจำนวนผู้ติด ยาเสพติดในประเทศไทย. สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทยและ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบปรามยาเสพติด. 2539.

นพดล กรรณิกา. สภาพปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพย์ติดในสถานศึกษาและการประมาณค่าจำนวนวนนักเรียน/นักศึกษาที่ใช้ยาเสพย์ติด: ศึกษาเฉพาะกลุ่มตัวอย่างในสถาบันการศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและกระทรางมหาดไทย. รายงานการวิจัย : สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามขาเสพติค. สำนักวิจัยเอเเบก - เคเอสซีอิน-เตอร์เนตโพลล์ (เอแบคโพลล์) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ. 2542.

สุมิตร สุตรา และคณะ. รายงานการทบทวนองค์ความรู้การวิเคราะห์สภาวะสุขภาพ และแนวโน้มของประชากรวัยเรียน, สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. 2543.

สำนักพัฒนาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพย์คิด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพย์ติดสำนักนายกรัฐมนตรี. สถานการณ์ปัญหายาเสพย์ติดในสถานศึกษา. อ้างใน แนวทางการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพย์ติดในสถานศึกษา: พ.ศ.2542.

ธนะพงศ์ จินวงษ์, พิสมัย อัมตรวงศ์. พฤติกรรมการใช้สารเสพย์ติดและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 5 จังหวัดนครราชสีมา ปีการศึกษา 2541-42. เวชสารโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา. 2544; 25: 1-10.

บุญเรียบ วัฒนธำรงค์. คู่มือดำเนินงานหลักสูตรการพื้นฟูสมรรถภาพเเละส่งเสริมการดูแลตนเองแบบบูรณาการแก่ผู้ป่วยเสพย์ติดวัยรุ่น. โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.พิมพ์ครั้งที่ 2. พ.ศ.ศ.2543.

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. ช่วยเพื่อนช่วยตนเอง Help to self help. โรงพยาบาลธัญญารักษ์ ร่วมกับกองประสานการปฏิบัติการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพย์ติด. กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.พิมพ์ครั้งที่ 1. พ.ศ.2544.

ภาวิณี อยู่ประเสริฐ. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้สารเสพติดของนักเรียนวัยรุ่น ในกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์บัณฑิต (สาธารณสุขศาสตร์) สาขาวิชาเอกพยาบาลสาธารณสุข. มหาวิทยาลัยมหิดล. 2540.

อารยา สิโรคม. ความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนแออัดกับยาเสพย์ติด. อ้างในแนวทางการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพย์ติดในสถานศึกษา: สำนักพัฒนาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดสำนักนายกรัฐมนตรี. (124-126) พ.ศ.2542.