ความคลาดเคลื่อนในการบริหารยาของพยาบาล ในกลุ่มงานอายุรกรรมโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

บทคัดย่อ

ความคลาดเคลื่อนในการบริหารยาเป็นปัญหาหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูงและสามารถเกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยได้ ควรมีแนวทางป้องกันและแก้ไขความคลาดเคลื่อนในการบริหารยาอย่างเป็นระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การบริการสุขภาพได้ประสิทธิภาพและคุณภาพสูงสุด รวมทั้งเพื่อให้ความรุนแรงของความคลาดเคลื่อนทางยาก่อผลไม่ดีต่อผู้ป่วยน้อยที่สุด วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการประเมินเบื้องต้นปัญหาการบริหารยาไม่ถูกต้องของพยาบาลในกลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา วิธีการศึกษา ใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับการเกิดและความถี่ของปัญหาต่างๆในความคลาดเคลื่อนในการบริหารยาตั้งแต่จบการศึกษาพยาบาล จากเจ้าหน้าที่พยาบาลทุกคนและทุกระดับของกลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยทำการสอบถามในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2545 นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา: ผู้ตอบแบบสอบถาม 136 ราย คิดเป็นร้อยละ 87.7 จากพยาบาลทั้งหมด เพศหญิงร้อยละ 98.5 อายุเฉลี่ย32.3±8.4 ปี ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพร้อยละ 73 พยาบาลเทคนิคร้อยละ 27 ระยะเวลาทำงาน หลังจบการศึกษา 10.0±7.8 ปี และพบว่าพยาบาลเคยมีความผิดพลาดในการบริหารยาตั้งแต่การลืมรับคำสั่ง หรือรับคำสั่งการรักษาผิดหรือลืมหยุดใช้การ์ดยาร้อยละ 52-66 เคยบริหารยาแก่ผู้ป่วยไม่ถูกต้อง ผิดคนหรือบริหารยาที่แพทย์ไม่ได้สั่งร้อยละ 42-91 โดยความถี่ของการบริหารยาซึ่งแพทย์ไม่ได้สั่งอยู่ในเกณฑ์ที่สูงถึง 30 ครั้งต่อปี เคยพบปัญหาระบบการบริหารเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาในกรณีที่มีปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายพบถึงร้อยละ 20 และมีความถี่สูงถึง 30 ครั้งต่อปี เคยมีปัญหาความไม่รู้ในการบริหารยาผิดรูปแบบในผู้ป่วยที่ใส่สายให้อาหารพบร้อยละ 44-77 ส่วนการดูแลผู้ป่วยให้ได้รับยารับประทานอย่างครบถ้วนพบได้ร้อยละ 84.5.5  สรุป ในกระบวนการบริหารยาแก่ผู้ป่วยของกลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามีปัญหาค่อนข้างมาก ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ผู้บริหารยาจะเป็นพยาบาลวิชาชีพและมีประสบการณ์การทำงานเฉลี่ยสูงก็ตาม ดังนั้นการแก้ปัญหาจำเป็นต้องมีการประสานงานระหว่างแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาและการบริหารยาในผู้ป่วยให้มากขึ้น นอกจากนี้ควรมีระบบการตรวจสอบความผิดพลาดในการบริหารยาเพื่อป้องกันและลดความรนแรงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้น