การตรวจคัดกรองเพื่อกำหนดชนิดของพาหะธาลัสซีเมียและหาคู่เสี่ยง ในหญิงตั้งครรภ์ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

Main Article Content

ศาสตร์ศิลป์ อิ่มเอมกมล
พิเศก ทองสวัสดิ์วงศ์
สำราญ ไตรติลานันท์

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์เพื่อหาอัตราการตรวจคัดกรองเป็นบวกของโรคธาลัสซีเมียในหญิงตั้งครรภ์โดยวิธี Thal Screen Test (osmotic fragility test, OF) อัตราคู่สมรสที่ให้ผลการตรวจคัดกรองเป็นบวกทั้งคู่ โอกาสและชนิดที่คู่สมรสจะให้กำเนิดทารกที่เป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงเฉพาะ hemoglobin Bat's hydrop fetalis เเละ β-thalassemia homozygous นำผลที่ได้มาเปรียบเทียบหาวิธีการคัดกรองและตรวจขึ้นชั้นที่เหมาะสมและมีความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติจริง รูปแบบการวิจัย prospective descriptive study วิธีการศึกษา ทำการตรวจคัดกรองหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ครั้งแรกทุกรายที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงธันวาคม 2542 จำนวน 2,019 ราย โดยวิธี Thal Screen Test ตามสามีของหญิงตั้งครรภ์ที่ให้ผลบวกมาตรวจคัดกรองโดยวิธีเดียวกันคู่สมรสที่ให้ผลการตรวจคัดกรองเป็นบวกทั้งคู่จะถูกส่งเลือดตรวจเพื่อยืนยันชนิดของพาหะด้วยวิธี polymerase chain reaction (PCR) และหาสัดส่วนของ hemoglobin A2 โดยวิธี microcolumn DEAE Sephadex A50 chromatography จากนั้นนำผลที่ได้มาวิเคราะห์หาคู่สมรสที่ทารกในครรภ์มีโอกาสเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง ผลการศึกษาพบหญิงตั้งครรภ์ร้อยละ 18.5 (373/2,019 ราย) ให้ผลการตรวจคัดกรองเป็นบวก สามีของหญิงตั้งครรภ์ที่ผลตรวจคัดกรองเป็นบวกมาตรวจ ร้อยละ 64.6 (241/373 ราย) พบมีคู่สมรส 50 คู่ ที่ให้ผลการตรวจคัดกรองเป็นบวกทั้งคู่ คิดเป็นร้อยละ 20.7 (50/241 คู่) ทั้ง 50 คู่ได้ส่งตรวจหาชนิดของพาหะ ∂ thal 1 trait (ด้วยวิธี PCR) พาหะ B-thal trait เเละ Hb E วิธีหาสัดส่วนของ hemoglobin A2 โดยวิธี microcolumn DEAE Sephadex A50 chromatography) พบ คู่สมรส 5 คู่เป็นคู่เสี่ยงที่ทารกในครรภ์มีโอกาสเป็น โรคธาลัสซีเมียชนิดร้ายแรง คิดเป็นร้อยละ 10.0 ของคู่สมรสที่ให้ผลคัดกรองบวกทั้งคู่ (5/50 คู่) หรือร้อยละ 0.25 ของหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด (5/2,019 ราย โดยที่สามีที่มาตรวจคัดกรองร้อยละ 64.6) โดย 2 คู่ มีความเสี่ยงต่อ hemoglobin Bart's hydrop fetalis และ 3 คู่ มีความเสี่ยงต่อ β-thalassemia /HbE disease ในรายงานนี้ไม่พบคู่สมรสที่ทารกในครรภ์มีความเสี่ยงต่อ β-thalassemia homozygous สรุป โอกาสที่คู่สมรสจะให้กำเนิดทารกที่เป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงเฉพาะ hemoglobin Bart's hydrop fetalis เเละ β-thalassemia homozygous ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามีน้อย 2 รายต่อหญิงตั้งครรภ์ 2,019 ราย (ร้อยละ 0.1 โดยที่สามีที่มาตรวจคัดกรอง ร้อยละ 64.6) ผู้วิจัยได้เสนอวิธีการตรวจคัดกรองที่ประหยัดและมีความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติในโรงพยาบาลทั่วไป

Article Details

How to Cite
1.
อิ่มเอมกมล ศ, ทองสวัสดิ์วงศ์ พ, ไตรติลานันท์ ส. การตรวจคัดกรองเพื่อกำหนดชนิดของพาหะธาลัสซีเมียและหาคู่เสี่ยง ในหญิงตั้งครรภ์ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา. MNRHJ [อินเทอร์เน็ต]. 7 มกราคม 2025 [อ้างถึง 21 มิถุนายน 2025];23(3):143-56. available at: https://he04.tci-thaijo.org/index.php/MNRHJ/article/view/2563
บท
นิพนธ์ต้นฉบับ

References

Wasi P. Haemoglobinopathies including thalassemia.Tropical Asia Clin Haematol 1981;10:707-29.

อดิเทพ เชาว์วิศิษฐ. โรคธาลัสซีเมียกับการตั้งครรภ์. ใน: บุญศรี จันทร์ธัชชกุล, บรรณาธิการ. สูติศาสตร์ ร่วมสมัยกรุงเทพฯ: ข้าวฟ้าง; 2542. หน้า 249-62.

ส่วนอนามัยแม่และเด็ก กรมอนามัย. แผนงานควบคุมป้องกันโรคธาลัสซีเมียและฮีโมโกลบินผิดปกติ. เอกสารวิชาการในการประชุม/อบรมโครงการป้องกันและควบคุมโรคเลือดธาลัสซีเมีย. กุมภาพันธ์ 2542.

Wasi P,Pootrakul S, Pootrakul P, Pravatmuang P, Winicha goon P, Fucharoen S. Thalassemia in Thailand. Ann NY Acad Sci 1980;344:352-63.

Fucharoen S, Winichagoon P, Pootrakul P, Piankijagum A,WasiP. Variable severity of Southest Asia B-thalassemia/HbE disease. Birth Defects 1988;23:241-8.

ธีระ ทองสง.การควบคุมธาลัสซีเมียชนิดร้ายแรงด้วยยุทธวิธีก่อนคลอด.ใน: บุญศรี จันทร์ชัชชกุล, บรรณาธิการ. สูติศาสตร์ร่วมสมัย. กรุงเทพฯ: ข้าวฟ่าง; 2542. หน้า 233-47.

Cunningham FG,MacDonald PC, Gant NF, et al. Williams Obstetrics 20th ed. Stamford: Appleston & Lange; 1997. p.1186-8.

ธวัชชัย จิรกุลสมโชค. ธาลัสซีเมียและฮีโมโกลบินผิดปกติ ในสตรีตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี. ขอนแก่นเวชสาร 2540;21:1-11.

พรสุดา กฤติดาเมธ, ชเนนทร์ วนาภิรักษ์, สุพัตร ศิริโชติยกุล, และคณะ : Thalassemia test screening. เชียงใหม่เวชสาร 3539; 75 (ฉบับผนวก): 108-9.

อดิเทพ เชาว์วิศิษฐ, รสิก รังสิปราการ, ธวัช เจตน์สว่างศรี, และคณะ. Thalassemia screening in pregnant women. รามาธิบดีเวชสาร 2541;21:147-53.

ถวัลย์วงค์ รัตนสิริ, เกรียงไกร กิจเจริญ, วิทูรย์ ประเสริฐเจริญสุข, และคณะ. การตรวจกรองธาลัสรีเมียในสตรีตั้งครรภ์ไตรมาสแรกที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์: การศึกษานำร่องที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย. ㆍเอกสารประกอบการประชุมวิชาการการควบคุมและป้องกันโรคธาลัสซีเมีย ครั้งที่ 4. 21-22 พฤศจิกายน 2539. จังหวัดขอนเเก่น.

ชวดี นพรัตน์, วิวัฒน์ โภคาสิกรณ์, อุรา ทัศนลีลพร, และ คณะ. Incidence of carriers of thalassemia and abnormal hemoglobin in pregnant women at Songklanagarind Hospital. สงขลานครินทร์เวชสาร 2539;14:63-8.

ยุพา ศรีวราสาสน์. การคัดกรองและให้คำปรึกษาทางพันธุกรรม เกี่ยวกับความผิดปกติของฮีโมโกลบิน ในหญิงตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา. วารสารแพทย์เขต 4 2542;18:243-50.

วีระพล จันทร์ดียิ่ง, มาลิดา พรพัฒน์ดุล, สุวิทย์ คงชูช่วย, ชุติมา คัณตราภิวัฒน์, จันทร์ฉาย เจริญสุข, ศรัทรา มุนินทร์ นิมิตต์. โครงการวิจัยเพื่อหารูปแบบในการป้องกันและควบคุมโรคธาลัสซีเมียในระดับชุมชน. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์เสนอสภาวิจัยแห่งชาติ. 15 ตุลาคม 2542.

ต่อพงศ์ สงวนเสริมศรี, Steger HF, พรรณี ศริวรรธนาภา, ชเนนทร์ วนาภิรักษ์, ธีระ ทองสง. การควบคุมและป้องกันโรคธาลัสซีเมียชนิดร้ายแรง โดยวิธี Chiang Mai Strategy. วารสารโลหิตวิทยาและเวชศาสตร์บริการโลหิต 2541;8: 207-14.

ภัทรา ธนรัตนากร, กวีไชยศิริ, ศิราภรณ์ สวัสดิวร, และคณะ. การศึกษาปรียบเทียบความชุกของโรคธาลัสซีเมียและพาหะในหญิงมีครรภ์ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการการควบคุมและป้องกันโรคธาลัสซีเมีย ครั้งที่ 4. 21-22 พฤศจิกายน 2539. จังหวัดขอนแก่น.

ธนวรรณ กุมมาลือ, เพ็ญศรี มานิตย์ศิริกุล, สุนทร ไทยสมัคร, มงคล ผานิดานันท์, สุทัศน์ ฟู่เจริญ. Hemoglobinopathies in pregnancy at Maharat Nakhon Ratchasima Hospital. เวชสารโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 2539;20:75-81.

สุทัศน์ ฟู่เจริญ. The amount of Hb A2 in difterent Hb E syndromes. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการการควบคุมและป้องกันโรคธาลัสซีเมีย ครั้งที่ 4. 21-22 พฤศจิกายน 2539. จังหวัดขอนแก่น.