ผลการพัฒนาสมรรถนะผู้ตรวจการพยาบาล ด้านการนิเทศ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19

ผู้แต่ง

  • วันเพ็ญ สร้อยทอง กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19

บทคัดย่อ

          การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi experimental research) แบบหนึ่งกลุ่มวัดก่อน-หลัง (One group pretest-posttest design) มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดระดับความรู้ ระดับสมรรถนะและประสิทธิผลของการพัฒนาสมรรถนะผู้ตรวจการพยาบาลด้านการนิเทศของโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มผู้ตรวจการพยาบาลและผู้เตรียมความพร้อมเป็นผู้ตรวจการพยาบาล จำนวน 33 คน ประกอบด้วย หัวหน้างาน รองหัวหน้างาน และ พยาบาล Senior staff nurse เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลคุณลักษณะประชากร แบบสอบถามสมรรถนะผู้ตรวจการพยาบาล แบบวัดความรู้ด้านการนิเทศทางการพยาบาล ทดสอบความเชื่อมั่นโดยใช้สัมประสิทธิ์อัลฟาครอนบาค มีค่าเท่ากับ 0.95 แบบสัมภาษณ์ข้อมูลแบบกึ่งโครงสร้าง เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม 2564 วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติวิเคราะห์ใช้ Pair t-test และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากเนื้อหา (Content analysis)

          ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 97.0 อายุอยู่ในช่วง 40-49 ปี ร้อยละ 48.5 อายุเฉลี่ย 49 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 81.8 ตำแหน่งงานระดับหัวหน้างานร้อยละ 39.4 รองหัวหน้างาน ร้อยละ 30.3 มีประสบการณ์ในตำแหน่ง อยู่ในช่วง 1-5 ปี มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 51.5 ทั้งนี้ผู้มีประสบการณ์ในตำแหน่งน้อยที่สุด 1 เดือน คือ รองหัวหน้างานที่เพิ่งรับได้การคัดเลือกและมีคำสั่งแต่งตั้ง และผู้มีประสบการณ์ในตำแหน่งสูงสุด 26 ปี เฉลี่ยมีประสบการณ์ในตำแหน่ง 8.08 ปี ระยะเวลาปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 16-20 ปี ร้อยละ 33.3 เฉลี่ย 16.64 ปี

          ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของสมรรถนะผู้ตรวจการพยาบาลและความรู้ด้านการนิเทศก่อนและหลังการทดลอง พบว่า สมรรถนะด้านการนิเทศมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value 0.001) ส่วนความรู้ด้านการนิเทศมีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value 0.096) จากงานวิจัยนี้ ผู้วิจัยเห็นว่าควรมีการให้ความรู้และพัฒนาสมรรถนะให้กับพยาบาลที่เตรียมจะเป็นผู้ตรวจการพยาบาลต่อไป

References

ยุพิน บุญไมตรีสัมพันธ์. การพัฒนารูปแบบนิเทศทางการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19. การนำเสนอผลงานวิชาการ วิจัย/R2R/นวัตกรรม ปี 2562 สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดกาญจนบุรี; 2562.

รัชตวรรณ ศรีตระกูล. แนวคิด หลักการ และการนิเทศทางการพยาบาล. เอกสารประกอบการสอน สาขาวิชาการบริหารการพยาบาล มหาวิทยาลัยขอนแก่น. เข้าถึงได้จาก: file:///C:/Users/win10/Downloads/reader_com_6%20(2).pdf.

U.H. Graneheim*, B. Lundman. Qualitative content analysis in nursing research: concepts, procedures and measures to achieve trustworthiness. Nurse Education Today. (2004) 24, 105–112

จิราพร ฟั่นยะ, มณีรัตน์ ภาคธูป, อรินันท์ หาญยุทธ. สมรรถนะของผู้ตรวจการพยาบาลตามความคาดหวังและการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร. วารสารพยาบาลทหารบก ปีที่ 17 ฉบับที่ 1 (ม.ค. - เม.ย.) 2559. 101-114.

อำไพ ขอพึ่ง. ตัวประกอบสมรรถนะของผู้ตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการในโรงพยาบาลทั่วไป. (วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์) : มหาวิทยาลัยบูรพา; 2556.

สุดารัตน์ วรรณสาร, รัตนาวดี ชอนตะวัน, สมใจ ศิระกมล. การพัฒนาการนิเทศการพยาบาล ของผตรวจการพยาบาลนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่. Nursing Journal Volume 40 Supplement November (2013) 57–67.

Sabine Pohl., Maura Galletta. The role of supervisor emotional support on individual job satisfaction: A multilevel analysis. Applied Nursing Research 33 (2016) 61–66. journal homepage: www.elsevier.com/locate/apnr

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2021-04-30

How to Cite

1.
สร้อยทอง ว. ผลการพัฒนาสมรรถนะผู้ตรวจการพยาบาล ด้านการนิเทศ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19. Phahol Hosp J [อินเทอร์เน็ต]. 30 เมษายน 2021 [อ้างถึง 10 มีนาคม 2025];9(25):89-102. available at: https://he04.tci-thaijo.org/index.php/PPHJ/article/view/2067