ผลของโปรแกรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยสำหรับพ่อแม่และผู้ปกครอง เขตสุขภาพที่ 8
คำสำคัญ:
เด็กปฐมวัย, ผู้ปกครองผู้ดูแลเด็ก, โปรแกรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กบทคัดย่อ
การพัฒนาเด็กปฐมวัยมีความสำคัญมากและต้องทำอย่างต่อเนื่อง พ่อแม่และผู้ปกครองต้องเป็นหลักในการส่งเสริมพัฒนาการของ การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความรู้ทัศนคติ และทักษะในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุมก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย 2) เปรียบเทียบความรู้ทัศนคติและทักษะในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของกลุ่มทดลอง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างคือพ่อ แม่ และผู้ปกครองของเด็กปฐมวัยจำนวน 72 คน ใช้การสุ่มอย่างง่าย แบ่งเป็น กลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามพ่อแม่ผู้ปกครองด้านความรู้ ทัศนคติ (IOC = 0.91, α = 0.97) และทักษะในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (IOC = 0.93, α = 0.97) โปรแกรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (IOC = 0.60 – 1.00) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Pair t- test และ Independent sample T- test ผลการวิจัยพบว่า ระดับความรู้ทัศนคติ และทักษะเกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ของพ่อแม่และผู้ปกครองเด็กปฐมวัย กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมก่อนใช้โปรแกรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยไม่แตกต่างกันที่ระดับ P = 0.01 ระดับความรู้ ทัศนคติ และทักษะเกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ของพ่อแม่และผู้ปกครองในกลุ่มทดลองก่อนและหลังการทดลอง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P < 0.01 ระดับความรู้ ทัศนคติ และทักษะเกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยของพ่อแม่ และกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P < 0.01 ข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้คือ หน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงเด็ก สามารถนำโปรแกรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความรู้ให้กับผู้ปกครองให้สามารถส่งเสริมเด็กให้มีพัฒนาการดี มีความรู้ และทัศนคติ ที่ดีกับการเลี้ยงเด็กวัยปฐมวัย
