ความพึงพอใจและความคาดหวังของบุคลากรสาธารณสุขที่มีต่อการบริหารงาน กรณีศึกษา: โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ประสงค์ถ่ายโอน ไปสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี
คำสำคัญ:
ความพึงพอใจ, ความคาดหวัง, การบริหารงาน, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลการถ่ายโอนไปสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาความพึงพอใจและความคาดหวัง ของบุคลากรสาธารณสุข ที่มีต่อการบริหารงาน กรณีศึกษา: โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ประสงค์ถ่ายโอนไปสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล กับ ความพึงพอใจและความคาดหวังของบุคลากร เปรียบเทียบความพึงพอใจและความความคาดหวังของบุคลากรสาธารณสุข ที่มีต่อการบริหารงาน รวมทั้งศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม กลุ่มตัวอย่างคือบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่ประสงค์ถ่ายโอนไปสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 234 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม เก็บรวบรวมข้อมูล โดยให้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกกลุ่มไลน์ “กาญจนบุรีถ่ายโอน รพ.สต.” ตอบแบบสอบถามออนไลน์ โดยใช้ Google Form สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ค่าร้อยละ (Percentage) บุคคล ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviasion) การทดสอบค่าที(Independent Samples T-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว(Oneway ANOVA)
ผลการศึกษา พบว่า บุคลากรสาธารณสุขส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 30-39 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข มีอายุราชการไม่เกิน 10 ปี อัตราเงินเดือนไม่เกิน 20,000 บาท ความพึงพอใจของบุคลากรสาธารณสุขที่มีต่อการบริหารงาน ในภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับปานกลาง ด้านความคาดหวังของบุคลากรสาธารณสุขที่มีต่อการบริหารงาน ในภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากปัจจัยส่วนบุคคล เพศ อายุ และ ตำแหน่ง แตกต่างกัน จะมีความพึงพอใจต่อการบริหารงานในภาพรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนระดับการศึกษา ระยะเวลาในการปฏิบัติงานและ อัตราเงินเดือน ต่างกัน มีความพึงพอใจต่อการบริหารงานในภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ด้านความคาดหวัง ปัจจัยส่วนบุคคล เพศอายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และอัตราเงินเดือน ต่างกัน มีความคาดหวังต่อการบริหารงานในภาพรวมและทุกด้านไม่แตกต่างกัน
ความพึงพอใจและความความคาดหวังของบุคลากรสาธารณสุขที่มีต่อการบริหารงาน ทั้งในภาพรวมและรายด้านทุกด้าน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ความคิดเห็น ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ส่วนใหญ่ไม่แสดงความเห็นรองลงมาเป็นกลุ่มที่เห็นด้วย ต้องการถ่ายโอนโดย ต้องการความก้าวหน้าในวิชาชีพ, ต้องการให้มีการปรับตำแหน่งให้เหมาะสมกับวุฒิการศึกษา, ต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องของทุกหน่วยงานปฏิบัติตามนโยบาย ให้ความสำคัญกับกฎหมายกระจายอำนาจ สนับสนุนการถ่ายโอน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด และกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ไม่ต้องการถ่ายโอน เนื่องจากไม่มั่นใจในสายงานที่ขึ้นกับการเมือง, ไม่เห็นด้วยกับการถ่ายโอนแต่ต้องการความก้าวหน้า,ต้องการให้กระทรวงสาธารณสุขควรดูแล รพ.สต. ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ และ คิดว่าไม่แตกต่างจากสังกัดเดิม
References
แนวทางการดำเนินการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด. (ม.ป.ป.). กรุงเทพฯ: สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น.
ปวัณรัตน์ พสกภักดี. (2560). ความคาดหวังและความพึงพอใจในการเข้าร่วมโครงการ OPPY Club ของผู้สูงอายุ.ปริญญาวารสารศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน สาขาวิชาการบริหารสื่อสารมวลชน.
ปราโมทย์ นวลประสงค์. (2552). ทัศนคติต่อการถ่ายโอนภารกิจด้านการจัดการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล ในพื้นที่จังหวัดระยอง.ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนาสังคม)คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
ภุมรินทร์ ทวิชศรี. (2554). ความคาดหวังและความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด.บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิชาเอกการจัดการวิศวกรรมธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
สถาปนวัฒน์ ภู่มาลา. (2560). ทัศนคติและความคาดหวังของหน่วยรับตรวจราชการในส่วนภูมิภาคต่อการกํากับติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. ปริญญาสังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ สาขาการบริหารและนโยบายสวัสดิการสังคม ภาควิชาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาและบุคลากรท่านอื่น ๆ ในโรงพยาบาลฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง