Miss Effect of a Walking Rehabilitation Program using a Portable, Self-administered Walking Aid in Bedridden Patients in Bo Phloi District, Kanchanaburi Province

Authors

  • Chayatida Suphangasada Department of Physical Medicine and Rehabilitation, Bo Phloi Hospital, Kanchanaburi 71160

Keywords:

Walking, Activities of Daily Living, Rehabilitation, Quality of Life, Bedridden Patients

Abstract

Objectives: To study the effect of a home-based walking rehabilitation program using a portable, self-administered walking aid in bedridden patients.

Methods: A single-group quasi-experimental design with pre- and post-intervention measurements was conducted between October 2024 – February 2025 The sample consisted of 35 bedridden patients in Bo Phloi District, Kanchanaburi Province, selected using purposive sampling. Participants received self-administered home-based walking aid and a walking rehabilitation program. The researcher conducted home visits once a month, and patients performed walking exercises three times per week for a period of five months. Data was collected using questionnaires and analyzed using descriptive statistics and paired t-tests.

Results: Following the intervention, the mean scores for self-care behavior (25.57±2.32 and 16.40±4.38), quality of life (52.09±7.73 and 100.94±14.77), and Barthel Index of Activities of Daily Living (2.74±1.88 and 12.00±1.57) significantly increased (p<0.001). The majority of patients demonstrated a moderate risk of falling during ambulation (51.43%), and most exhibited good quality of movement (42.86%), which increased from pre-intervention levels.

Conclusions: A 5-month home-based walking rehabilitation program using a portable, self-administered walking aid effectively improved the quality of life and activities of daily living in bedridden patients. It also enhanced their balance during ambulation and quality of movement. Therefore, this walking rehabilitation process should be considered for application in other patient groups with mobility impairments.

References

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลจากรายงานสถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขในปี พ.ศ. 2566. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2566.

ณัชชา สิทธินววิธ, รมณ สิทธินววิธ, จีรนันท์ ดวงมณี. ผลของโปรแกรมการออกกําลังกายเพื่อการจัดการดูแลและชะลอการเกิดภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย (Sarcopenia) ของผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์คนชราบ้านลพบุรี. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน. 2567;10(1):145-55.

ณัฐณิชา ธัญญาดี, ธาตรี โบสิทธิพิเชฎฐ์, ธนกมณ ลีศรี. การใช้ยาหลายขนาน การใช้ยาที่เสี่ยงต่อภาวะ หกล้ม และภาวะหกล้มในผู้สูงอายุ ที่เข้ารับบริการระบบบริการปฐมภูมิ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา: การศึกษาแบบภาคตัดขวาง. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9. 2565;16(1):236-50.

ลลิดา ปักเขมายัง, นาฎอนงค์ แฝงพงษ์, นิตยา ไสยสมบัติ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความสามารถ การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุในชุมชน. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี. 2566;6(2):1-13.

ชญานิษฐ์ เอี๋ยวสกุล, สายธิดา ลาภอนันตสิน. ปัจจัยเสี่ยงการล้มด้านความแข็งแรงกล้ามเนื้อขาและการทรงตัวขณะเดินในผู้สูงอายุวัยต้น เขตเทศบาลตำบลเสาธงหิน จังหวัดนนทบุรี. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 2566;32(6):1000-14.

สิชล ทองมา, นงลักษณ์ กลิ่นพุดตาน, ศิริพร สว่างจิตร, จุฑารัตน์ บันดาลสิน, วีรยุทธ ศรีทุมสุข. บทบาทพยาบาลในการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านที่มีภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย. 2564;22(1):65-73.

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานการพยากรณ์การพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ในปี พ.ศ. 2560-2564. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2560.

ศิรินาถ ตงศิร. การใช้บัญชีสากลเพื่อการจำแนกการทำงาน ความพิการและสุขภาพ (International Classification of Functioning, Disability and Health) ในการพัฒนาฐานข้อมูลคนพิการ. ศรีนครินทร์เวชสาร. 2556;28(1):131-42.

หนึ่งนุช บุตรวัง. การศึกษาเปรียบเทียบผลของโปรแกรมส่งเสริมทักษะผู้ดูแลต่อความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันและภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง โรงพยาบาลวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 1 ส.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://skko.moph.go.th/dward/document_file/oa/research_file_name/20240409165115_572671081.pdf

Krejcie RV, Morgan DW. Determining sample size for research activities. Educ Psychol Meas. 1970;30(3):607–10.

พัชรียา ขุนจันทร์, นภชา สิงห์วีรธรรม, กิตติพร เนาว์สุวรรณ.ผลของการฝึกการทรงตัวขณะยืนและเดิน ร่วมกับเครื่องเสริมสร้างการก้าวย่างต่อการฟื้นฟูการทรงตัวและความเร็วที่เหมาะสมของการเดินใน ชุมชนอย่างปลอดภัยของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลสะเดา.วารสารกายภาพบำบัด. 2565;44(2):149-58.

ภาสิต ศิริเทศ, ณพวิทย์ ธรรมสีหา. ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถของตนเองกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ. วารสารพยาบาลทหารบก. 2562;20(2):58-56.

Gillespie LD, Robertson MC, Gillespie WJ, Sherrington C, Gates S, Clemson LM, et al. Interventions for preventing falls in older people living in the community. Cochrane Database Syst Rev. 2012;9(1):1-18.

นราวุฒิ กตเวทิวงศ์. การเปรียบเทียบวามรู้ การปฏิบัติตัว การออกกำลังกายและค่าดัชนีมวลกายก่อนและหลังการให้สุขศึกษา ในเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบ่อพลอย. กาญจนบุรีเวชสาร. 2564;9(26):18-36.

สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล, วิระวรรณ ตันติพิวัฒนสกุล, วนิดา พุ่มไพศาลชัย. เครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อ ฉบับภาษาไทย. โครงการจัดทำโปรแกรมสำเร็จรูปในการสำรวจสุขภาพจิตในพื้นที่. 2545;3(1):1-7.

ศุภานัน ผึ้งถนอม, ไพรวรรณ สัทธานนท์. คุณสมบัติเครื่องมือในการประเมินความเสี่ยงการหกล้มในผู้สูงอายุที่มีภาวะการรับรู้บกพร่องเล็กน้อยและภาวะสมองเสื่อม: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ. วชิรเวชสารและวารสารเวชศาสตร์เขตเมือง. 2018;62(4):335-44.

Terson de Paleville DGL, Saner SW. The Diamond Framework for team-based active learning for physiology courses. Adv Physiol Educ. 2024;48(4):857–66.

Chuter VH, Janse de Jonge XAK. Proprioception, gait and falls in older adults: a systematic review and meta-analysis. Age Ageing. 2012;41(5):584–90.

Cronbach LJ. Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika. 1951;16(3):297–334.

ปัญจพร ภาศิริ, ปิยธิดา คูหิรัญญรัตน์. ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตัวเกี่ยวกับการออกกำลังกายของอาสาสมัครสาธารณสุข ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2558;3(1):113-31.

สิชล ทองมา, นงลักษณ์ กลิ่นพุดตาล, ศิริพร สว่างจิตร, จุฑารัตน์ บันดาลสิน, วีรยุทธ ศรีทุมสุข. บทบาทพยาบาลในการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านที่มีภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย. วารสารพยาบาลทหารบก. 2564;22(1): 65-73.

มัลลิกา ภิรมย์บุญ, พรรณี ปึงสุวรรณ, ลักขณา มาทอ, รวยริน ชนาวิรัตน์, พลลพัฏฐ์ ยงฤทธิปกรณ์, เสาวนีย์ นาคมะเริง. ผลของการฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวที่มีต่อความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อหน้าท้องและความสามารถในการลุกยืนในวัยรุ่นที่มีภาวะอ้วน: การศึกษานำร่อง. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ. 2563;21(3):460-70.

ฉัตรสุดา ศรีบุรี, ปารวี มุสิกรัตน์, ปฏิมา ศิลสุภดล, กนกวรรณ ศรีสุภรกรกุล.ผลของการฝึกเดินถอยหลังและเดินไปข้างหน้าต่อการทรงตัว ตัวแปรด้านระยะทางและเวลาของการเดิน และความเสี่ยงของการหกล้มในผู้สูงอายุ. วารสารกายภาพบำบัด. 2565;44(1):12-28.

อำพล บุญเพียร, วัชรพล พุฒิแก้ว, ไพลิน หมาดบำรุง, ปฐมา จันทรพลม, นราพร พิทักษ์พร และคณะ. ผลการบริการวิชาการผู้ป่วยติดเตียงและผู้ดูแลในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวัดราษฎร์นิยม อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน 2564;7(3):45-58.

อ้อมเดือน ชื่นวารี, อรณิช ตั้งนิรามัย, ธันยพร วงศ์กาด. แนวทางประยุกต์ใช้ ICF Model ในการรักษาทางกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วารสารเวชบันทึกศิริราช. 2567;17(2):146-55.

Downloads

Published

30-05-2025

How to Cite

1.
Suphangasada C. Miss Effect of a Walking Rehabilitation Program using a Portable, Self-administered Walking Aid in Bedridden Patients in Bo Phloi District, Kanchanaburi Province. Phahol Hosp J [internet]. 2025 May 30 [cited 2025 Jun. 21];13(2):1-13. available from: https://he04.tci-thaijo.org/index.php/PPHJ/article/view/2890

Issue

Section

Original Articles