ผลของโปรแกรมการดูแลผู้สูงอายุด้วยระบบ 3 หมอ ต่อการลดความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุในพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งเกษม ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
ผู้สูงอายุ, โปรแกรมการดูแลการพลัดตกหกล้ม, ระบบ 3 หมอบทคัดย่อ
การวิจัยแบบกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการดูแลผู้สูงอายุด้วยระบบ 3 หมอ ในการลดความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุในพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งเกษม ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มจากแบบคัดกรอง Thai FRAT ตั้งแต่ระดับคะแนน 4 คะแนนขึ้นไป โดยใช้การคำนวณขนาดตัวอย่าง กลุ่มละ 34 คน กลุ่มทดลอง คือ ผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโนนผึ้ง และกลุ่มเปรียบเทียบ คือ ผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลก่อ ตำบลแสนสุข อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการดูแลผู้สูงอายุด้วยระบบ 3 หมอ ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ส่วนกลุ่มเปรียบเทียบได้รับการดูแลสุขภาพตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ เก็บข้อมูลก่อนและหลังการทดลอง ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์–เมษายน 2568 โดยใช้แบบสอบถามการรับรู้ ความสามารถแห่งตน พฤติกรรมการป้องกันการหกล้มที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นโดยมีระดับความเชื่อมั่นมากกว่า 0.7 ขึ้นไป และการประเมินความความเสี่ยงต่อภาวะหกล้มของผู้สูงอายุ การประเมินความสามารถในการเคลื่อนไหวและการทรงตัว และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่ามัธยฐาน วิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ ก่อนและหลังการทดลองด้วยสถิติ t-test กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการวิจัยพบว่า หลังการได้รับโปรแกรม กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการหกล้มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (p < 0.001) สะท้อนถึงความเข้าใจในการระบุปัจจัยเสี่ยงและการปรับสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดภัยมากขึ้น ในด้านการรับรู้ตามทฤษฎีแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ พบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งด้านการรับรู้ความรุนแรงของผลกระทบจากการหกล้ม (p < 0.001) การรับรู้โอกาสเสี่ยง (p < 0.001) การรับรู้ประโยชน์และอุปสรรคต่อการปฏิบัติตัว (p < 0.001) รวมถึง การรับรู้ความสามารถแห่งตน (p = 0.043) แสดงถึงความมั่นใจของผู้สูงอายุในการดูแลตนเองเพิ่มขึ้น ด้านพฤติกรรมการป้องกันการพลัดตกหกล้ม มีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญ (p < 0.001) โดยผู้สูงอายุมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การใช้ราวจับในห้องน้ำ และการสวมรองเท้าที่เหมาะสมมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา การเคลื่อนไหว และการทรงตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (p = 0.001) และระดับความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มลดลงอย่างชัดเจน
สรุปได้ว่าโปรแกรมการดูแลผู้สูงอายุด้วยระบบ 3 หมอมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างความรู้ การรับรู้ และพฤติกรรมการป้องกันการหกล้ม รวมทั้งพัฒนาสมรรถภาพทางกาย ส่งผลให้ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มได้อย่างมีประสิทธิผล
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2564 ตารางสถิติรายจังหวัด [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 2 กันยายน 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.nso.go.th/nsoweb/storage/survey_detail/2023/20230731135832_28841.pdf
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2567 ระดับจังหวัด [อินเทอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 2 กันยายน 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.nso.go.th/nsoweb/storage/survey_detail/2025/20250103144326_47137.pdf
กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. การพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ: สาเหตุและการป้องกัน [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 21 กันยายน 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1037120200813042821.pdf
เขตสุขภาพที่ 10. รายงานโครงการพัฒนาระบบบูรณาการสุขภาพชุมชนสู่ระบบบริการสุขภาพอย่างไร้รอยต่อสำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง Stroke, STEMI, Hip Fracture. อุบลราชธานี: สำนักงานเขตสุขภาพที่ 10; 2568.
Rosenstock IM, Strecher VJ, Becker MH. Social learning theory and the Health Belief Model. Health Educ Q. 1988; 15(2): 175-83. doi: 10.1177/109019818801500203. PubMed PMID: 3378902.
Gibson CH. A concept analysis of empowerment. J Adv Nurs 1991; 16(3): 354-61. doi: 10.1111/j.1365-2648.1991.tb01660.x. PubMed PMID: 2037742.
นิภา อินทนิล. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ด้วยระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิและการมีส่วนร่วมของชุมชน ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ พฤษภาคม-สิงหาคม 2566; 2(2): 66-75.
สุคนธ์ทิพย์ บัวแดง, นุชจรินทร์ แก่นบุปผา, พนาไพร โฉมงาม, นัจจรินทร์ ผิวผ่อง, ดวงกมล หน่อแก้ว, กันยารัตน์ ชิราวุฒิ และคณะ. กระบวนการพัฒนารูปแบบการป้องกันภาวะพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ ตำบลโพธิ์ใหญ่ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข พฤษภาคม-สิงหาคม 2567; 10(2): 315-28.
กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. การประเมินและจัดการความเสี่ยงการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 2 กันยายน 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1318720220921053053.pdf
Lemeshow S, Hosmer DW, Klar J, Lwanga SK. Adequacy of sample size in health studies. Chichester: John Wiley & Sons; 1990.
สงกรานต์ กลั่นด้วง. การประยุกต์ใช้ The “take PRIDE” program ในการส่งเสริมพฤติกรรมการกำกับตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลขอนแก่น [วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2548.
กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. Falls Data: ข้อมูลพลัดตกหกล้ม [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 2 กันยายน 2568. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/dip/news.php?news=23567&deptcode=
Sansiritawisuk G, Wankham C, Bootkan C, Sommai M, Natitphuwaphong P, Srichiangsa W. Enhancing the Integrated Injury Surveillance System for All Age Groups in the Decentralized Areas to Local Governments in Ubon Ratchathani Province, Thailand. Int J Geoinformatics 2024; 20(10): 40-9. doi: 10.52939/ijg.v20i10.3639.
กรมการแพทย์. คู่มือการคัดกรองและประเมินสุขภาพผู้สูงอายุ พ.ศ. 2564 กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพฯ: ณจันตา ครีเอชั่น; 2564.
Bloom BS. Taxonomy of educational objectives, Handbook: The Cognitive Domain. New York: David McKay; 1956.
Best JW. Research in education. 3rd ed. Englewood Cliffs (NJ): Prentice-Hall; 1977.
Phelan EA, Mahoney JE, Voit JC, Stevens JA. Assessment and management of fall risk in primary care settings. Med Clin North Am 2015; 99(2): 281-93. doi: 10.1016/j.mcna.2014.11.004. PubMed PMID: 25700584.
American Geriatrics Society, British Geriatrics Society. Summary of the Updated American Geriatrics Society/British Geriatrics Society Clinical Practice Guideline for Prevention of Falls in Older Persons. J Am Geriatr Soc 2011; 59(1): 148-57. doi: 10.1111/j.1532-5415.2010.03234.x.
Podsiadlo D, Richardson S. The timed “Up & Go”: a test of basic functional mobility for frail elderly persons. J Am Geriatr Soc.1991; 39(2): 142-8. doi: 10.1111/j.1532-5415.1991.tb01616.x. PubMed PMID: 1991946.
Barry E, Galvin R, Keogh C, Horgan F, Fahey T. Is the Timed Up and Go test a useful predictor of risk of falls in community dwelling older adults: a systematic review and meta-analysis. BMC Geriatr 2014; 14: 14. doi: 10.1186/1471-2318-14-14. PubMed PMID: 24484314.
Jones CJ, Rikli RE, Beam WC. A 30-s chair-stand test as a measure of lower body strength in community-residing older adults. Res Q Exerc Sport 1999; 70(2): 113-9. doi: 10.1080/02701367.1999.10608028. PubMed PMID: 10380242.
Tan Ş. Misuses of KR-20 and Cronbach’s Alpha Reliability Coefficients. Education and Science 2009; 34(152): 101-12. doi: 10.15390/ES.2009.810.
Tavakol M, Dennick R. Making sense of Cronbach’s alpha. Int J Med Educ 2011; 2: 53-5. doi: 10.5116/ijme.4dfb.8dfd. PubMed PMID: 28029643.
พัชรินทร์ สมบูรณ์, รัมภา เต็มนอง, ขวัญธิรา หวังจิตต์. การพัฒนารูปแบบการเตรียมความพร้อมสำหรับการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุโดยบูรณาการความร่วมมือของภาคีเครือข่าย. วารสารวิชาการสาธารณสุข กรกฎาคม-สิงหาคม 2566; 32 ฉบับเพิ่มเติม 1: S102-12.
ณภัทรธร กานต์ธนาภัทร, พรรณวรดา สุวัน, จุฑารัตน์ เสาวพันธุ์, กชนิภา ขวาวงษ์, ญาธิดา วุฒิศาสตร์กุล, วิยะดา ทิพม่อม. การรับรู้เกี่ยวกับการหกล้ม พฤติกรรมการป้องกันการหกล้ม และจำนวนครั้งของการหกล้มของผู้สูงอายุภายหลังการใช้แนวปฏิบัติการป้องกันการหกล้มแบบสหปัจจัยตามหลัก 10 ป. ของผู้สูงอายุในชุมชนแห่งหนึ่ง จังหวัดอุดรธานี. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี มกราคม-เมษายน 2564; 29(1): 111-26.
Tang HT, Vu HM, Tang HT, Tran PT, Tran LV, Nguyen CD, et al. Knowledge, attitude and practice on fall risk factors and prevention among rural older community-dwellers in Vietnam. PLoS One 2023; 18(11): e0295119. doi: 10.1371/journal.pone.0295119. PubMed PMID: 38032956.
พวงพันธ์ วุฒิยาสกุล, กมลภู ถนอมสัตย์. ผลของไผ่ล้อมโมเดลต่อการป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุในชุมชนเมือง. วารสารพยาบาลตำรวจและวิทยาศาสตร์สุขภาพ กรกฎาคม-ธันวาคม 2567; 16 (2): 262-73.
Montero-Odasso M, van der Velde N, Martin FC, Petrovic M, Tan MP, Ryg J, et al. World guidelines for falls prevention and management for older adults: a global initiative. Age Ageing 2022; 51(9): afac205. doi: 10.1093/ageing/afac205. PubMed PMID: 36178003.
Chaiyabut T, Yomai K, Taechaboonsermsak P, Nanthamongkolchai S. Fall prevention and related factors among older adults in Samutprakarn Province, Thailand. Preprints 2024. doi: 10.20944/preprints202409.1962.v1.
สิริมา วังพยอม, สาลี อินทร์เจริญ, กีรติ พลเพชร, กาญจนชญา ศิริโชติ, นวพร แก้วชูเสน. ผลของโปรแกรมป้องกันการหกล้มด้วยการจัดการหลายปัจจัยต่อพฤติกรรมป้องกันการหกล้มและการทรงตัวของผู้สูงอายุในชุมชน จังหวัดตรัง. วารสารการปฏิบัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์ไทย กรกฎาคม-ธันวาคม 2566; 10(2): 20-37.
ทิพวรรณ โคตรสีเขียว, ดิษฐพล ใจซื่อ. การพัฒนารูปแบบการป้องกันการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายสุขภาพในชุมชน. วารสารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กรกฎาคม-ธันวาคม 2565; 4(2): 255-69.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 ยโสธรเวชสาร

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของยโสธรเวชสาร
