ประสิทธิผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรู้และทักษะการคัดแยกผู้ป่วยของพยาบาลวิชาชีพ หน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชบุรี
คำสำคัญ:
ความรู้, คัดแยก, ฉุกเฉิน, พยาบาล, ส่งเสริมบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรู้และทักษะการคัดแยกผู้ป่วยของพยาบาลวิชาชีพ หน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน
วิธีการวิจัย: เป็นการศึกษากึ่งทดลอง แบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนหลัง ในพยาบาลวิชาชีพหน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉินของโรงพยาบาลราชบุรี จำนวน 37 คน โดยการให้โปรแกรมการส่งเสริมความรู้และทักษะการคัดแยกผู้ป่วย 2 ครั้ง ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ถึง 15 มกราคม 2568 รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบวัดความรู้ และทักษะการคัดแยกผู้ป่วยตามดัชนีความรุนแรงฉุกเฉิน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติทดสอบวิลคอกซัน
ผลการวิจัย: ผู้เข้าร่วมการวิจัยมีอายุเฉลี่ย 35.41 ปี (SD=10.86) มีประสบการณ์ในการอบรมเฉพาะทางพยาบาลอุบัติเหตุและฉุกเฉินร้อยละ 37.84 มีประสบการณ์ในการได้รับการอบรมการคัดแยกร้อยละ 59.46 หลังได้รับโปรแกรมฯ ผู้เข้าร่วมการวิจัยคัดแยกผู้ป่วยถูกต้องเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70.38 คัดแยกเกินกว่าความจริงลดลงเป็นร้อยละ 17.03 และคัดแยกต่ำกว่าความจริงลดลงเป็นร้อยละ 12.59 เปรียบเทียบความรู้และทักษะการคัดแยกผู้ป่วยของพยาบาลหลังได้รับโปรแกรมฯ สูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (35.19 ± 4.20 และ 22.35 ± 3.68; p<0.001)
สรุปผล: โปรแกรมฯ นี้มีประสิทธิผลในการส่งเสริมความรู้และทักษะการคัดแยกให้กับพยาบาลวิชาชีพ หน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉินมีความรู้และทักษะในการคัดแยกผู้ป่วยได้ถูกต้องเพิ่มขึ้น
References
Shawah'en AA, AI-Akash HY, Massadehs R, Shajrawi A, Maabreh R, Assaf E, et al. Triage knowledge level and skills among emergency nurses in jordan: a quasi-experimental study. Community Pract. 2024;21(1):83-101.
Jarvis PRE. Improving emergency department patient flow. Clin Exp Emerg Med. 2016;3(2):63-8.
รัฐพงษ์ บุรีวงษ์, บรรณาธิการ. MOPH ED. TRIAGE. นนทบุรี: กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข; 2561.
AlSamnan M, AlAmry M, Aldossari S, Talea M, Khandekar R, AlGhadeer H. Validity of an ocular emergency triage system compared to the existing grading system at the emergency unit of a Tertiary Eye Hospital in Saudi Arabia. Clin Ophthalmol. 2023;17:527-34.
Moskop JC, Geiderman JM, Marshall KD, McGreevy J, Derse AR, Bookman K, et al. Another look at the persistent moral problem of emergency department crowding. Ann Emerg Med. 2019;74(3):357-64.
Eidsto A, Yla-Mattila J, Tuominen J, Huhtala H, Palomaki A, Koivistoinen T. Emergency department crowding increases 10-day mortality for non-critical patients: a retrospective observational study. Intern Emerg Med. 2024;19:175-81.
Thawley A, Aggar C, Williams N. The educational needs of triage nurses. Health Educ Pract. 2020;3(1):27-38.
กฤษฎา สวมชัยภูมิ, วัลย์ลดา ฉันท์เรืองวณิชย์, อรพรรณ โตสิงห์, อภิชญา มั่นสมบูรณ์. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความถูกต้องในการคัดแยกผู้ป่วยวยฉุกเฉินโดยการใช้ดัชนีความรุนแรงฉุกเฉิน. วารสารสภาการพยาบาล. 2562;34(4):34-47.
Anderson LW, Krathwohl DR. A taxonomy for learning, teaching, and assessing: a revision of Bloom's taxonomy of educational objectives. New York: Addison Wesley Longman; 2001.
มนตรี พรมท่อน, สุภารัตน์ วังศรีคูณ, อัจฉรา สุคนธสรรพ์. ผลของการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการคัดแยกผู้ป่วยที่แผนกฉุกเฉินต่อความถูกต้องในการคัดแยกของพยาบาล. พยาบาลสาร. 2562;46(1):65-75.
Zaboli A, Sibibilio S, Massar M, Brigiari B, Magnarelli S, Parodi M, et al. Enhancing triage accuracy: The influence of nursing education on risk prediction. Int Emerg Nurs. 2024;75:101486.
Yamane T. Statistics: an introductory analysis. 2nd ed. New York: Herper & Row; 1973.
นัฐนาการ ประนันท์คำ. ประสิทธิผลของการพัฒนาการคัดแยกผู้ป่วยโดยใช้ระบบการคัดกรองผู้ป่วย MOPH ED. Triage ในหน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉินและนิติเวช โรงพยาบาลดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 9 เม.ย. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.chiangmaihealth.go.th/document/240724172180506272.pdf
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาและบุคลากรท่านอื่น ๆ ในโรงพยาบาลฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง
