ปัจจัยเสี่ยงในผู้ป่วยเด็กโรคหืดกำเริบเฉียบพลัน ที่ส่งผลต่อการรับไว้รักษาตัวในโรงพยาบาลยโสธร
คำสำคัญ:
โรคหอบหืดในเด็ก, โรคหืดกำเริบเฉียบพลันในเด็ก, ปัจจัยเสี่ยงต่อการนอนโรงพยาบาลบทคัดย่อ
ความเป็นมา: โรคหืดกำเริบเฉียบพลันเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการมาตรวจรักษาที่ห้องฉุกเฉินของผู้ป่วยเด็ก หากทราบ
ปัจจัยเสี่ยงของการนอนโรงพยาบาลของผู้ป่วยเด็กโรคหืดกำเริบเฉียบพลัน จะสามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีและอาจ
ช่วยลดการนอนโรงพยาบาลได้
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาหาปัจจัยที่มีผลต่อการนอนโรงพยาบาลในผู้ป่วยเด็กที่เข้ามารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินด้วยโรคหืด
กำเริบเฉียบพลัน
วิธีการศึกษา: การศึกษาย้อนหลังเชิงพรรณนา โดยรวบรวมข้อมูลจากเวชระเบียนผู้ป่วยเด็กอายุ 6–15 ปีที่ได้รับการวินิจฉัยว่า
มีอาการหืดกำเริบเฉียบพลัน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ข้อมูล
ที่ศึกษาประกอบด้วยข้อมูลทางประชากร ปัจจัยกระตุ้น ประวัติการรักษาโรคหืด ลักษณะทางคลินิกแรกรับและการรักษาที่
แผนกฉุกเฉิน โดยเปรียบเทียบความแตกต่างของผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลกับผู้ป่วยที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
ผลการศึกษา: ผู้ป่วยเด็กที่เข้ารับการรักษาห้องฉุกเฉินและวินิจฉัยว่ามีอาการหืดกำเริบเฉียบพลันที่รับเข้าการศึกษา 180 คน
ได้รับการรักษาตัวนอนในโรงพยาบาล 90 คน และไม่ต้องนอนโรงพยาบาล 90 คน พบว่าผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่ม มีข้อมูลพื้นฐานและ
ประวัติการรักษาโรคหืดไม่แตกต่างกัน เมื่อเปรียบเทียบลักษณะทางคลินิกแรกรับ ระหว่างผู้ป่วยทั้งสองกลุ่ม พบว่า ผู้ป่วยที่ต้อง
นอนโรงพยาบาลมีระยะเวลาของการหอบก่อนมารักษาที่ห้องฉุกเฉินนานกว่า (OR 2.44, 95%CI 1.94- 3.6, p < 0.01), มี
อาการหอบระดับรุนแรงมากกว่า (OR 2.14, 95%CI 1.64- 2.6, p < 0.01) และเมื่อเปรียบเทียบการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน พบว่า
กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลได้รับยาขยายหลอดลมชนิด nebulized β2-agonist ใช้ระยะเวลาระหว่างพ่นยาแต่ละครั้ง
นานกว่ากลุ่มที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล (OR 2.28, 95%CI 1.82- 3.3, p < 0.01)
สรุปผลการศึกษา: ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการนอนโรงพยาบาลในผู้ป่วยเด็กโรคหืดกำเริบเฉียบพลันคือ ผู้ป่วยที่มีอาการจับหืด
นานก่อนเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน อาการประเมินแรกรับมีความรุนแรง และการรักษาที่แผนกฉุกเฉินพบว่าปัจจัยเสี่ยง คือ
ระยะเวลาระหว่างการพ่นยา nebulized β2-agonist แต่ละครั้งนานกว่ากลุ่มที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
References
Martinez FD. Trends in asthma
prevalence, admission rates, and asthma
death. Respir Care 2008; 53(5): 561-5.
PubMed PMID: 18426610.
ดาริกา วอทอง, เนสินี ไชยเอีย, วัชรา บุญสวัสดิ์.
ลักษณะอาชีพและปัจจัยกระตุ้นการเกิดโรคหืด
ของผู้ป่วยที่เข้ารับบริการคลินิกโรคหืดใน
โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น. ศรีนครินทร์
เวชสาร 2557; 29 (3): 224.
Bahadori K, Doyle-Waters MM, Marra C,
Lynd L, Alasaly K, Swiston J, et al.
Economic burden of asthma: a
systematic review. BMC Pulm Med 2009;
: 1-16. doi: 10.1186/1471-2466-9-24.
PubMed PMID: 19454036.
Boonsawat W, Charoenphan P,
Kiatboonsri S, Wongtim S, Viriyachaiyo V,
Pothirat C, et al. Survey of asthma
control in Thailand. Respirology 2004;
(3): 373-8. doi: 10.1111/j.1440-
2004.00584.x. PubMed PMID:
Visitsunthorn N, Durongpisitkul W,
Uoonpan S, Jirapongsananuruk O,
Vichyanond P. Medical charge of asthma
care in admitted Thai children. J Med
Assoc Thai 2005; 88 (suppl 8): S16- 20.
PubMed PMID: 16856420.
Suwan P. In-patient medical service
charge of pediatric patients with asthma
at BMA Medical College and Vajira
Hospital. Vajira Med J 2010; 54: 160-170.
ข้อมูลงานเวชระเบียนและสถิติ โรงพยาบาล
ยโสธร. จำนวนผู้ป่วยเด็กโรคหืดเข้ารับการรักษา
และต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลยโสธร.
ยโสธร; 2564.
Trakultivakorn M, Sangsupawanich P,
Vichyanond P. Time trends of the
prevalence of asthma, rhinitis and
eczema in Thai children-ISAAC
(International Study of Asthma and
Allergies in Childhood) Phase Three. J
Asthma 2007; 44(8): 609-11. doi:
1080/02770900701540119. PubMed
PMID: 17943570.
Ngamphaiboon J, Kongnakorn T, Detzel
P, Sirisomboonwong K, Wasiak R. Direct
medical costs associated with atopic
diseases among young children in
Thailand. J Med Econ 2012; 15(6): 1025-
doi: 10.3111/13696998.2012.698671.
PubMed PMID: 22642533.
Carroll CL, Stoltz P, Raykov N, Smith SR,
Zucker AR. Childhood overweight
increase hospital admission rates for
asthma. Pediatrics 2007; 120(4): 734-40.
doi: 10.1542/peds.2007-0409. PubMed
PMID: 17908759.
Moin M, Aghamohammadi A, Gharavi
MH, Ardestani A, Faghihimehr A, Kouhi A,
et al. Risk factors leading to hospital
admission in Iranian asthmatic children.
Int Arch Allergy Immunol 2008; 145(3):
-8. doi: 10.1159/000109293. PubMed
PMID: 17914276.
Tolomeo C, Savrin C, Heinzer M, BazzyAsaad A. Predictors of asthma–related
pediatric emergency department visits
and hospitalizations. J Asthma 2009;
(8): 829-34. PubMed PMID: 19863288.
Pollack CV Jr, Pollack ES, Baren JM,
Smith SR, Woodruff P, Clark S, et al. A
prospective multicenter study of patient
factors associated with hospital
admission from the emergency
department among children with acute
asthma. Arch Pediatr Adolesc Med 2002;
(9): 934-40. doi:
1001/archpedi.156.9.934. PubMed
PMID: 12197803.
Geelhoed GC, Landau LI, Le Souëf PN.
Evaluation of SaO2 as a predictor of
outcome in 280 children presenting with
acute asthma. Ann Emerg Med 1994;
(6): 1236-41. doi: 10.1016/s0196-
(94)70347-7. PubMed PMID:
สมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย. แนว
ทางการวินิจฉัยและรักษาโรคหืดในประเทศไทย
สำหรับผู้ใหญ่และเด็ก พ.ศ. 2555. กรุงเทพฯ:
ยูเนียนอุตราไวโอเร็ต; 2555.
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 ยโสธรเวชสาร
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.