การพยาบาลแบบองค์รวมผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจกที่มีความเสี่ยงสูงในโรงพยาบาลยโสธร: กรณีศึกษา 2 ราย

ผู้แต่ง

  • เปี่ยมศรี คำทวี โรงพยาบาลยโสธร

คำสำคัญ:

การพยาบาลแบบองค์รวม, การพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจก

บทคัดย่อ

ภาวะต้อกระจก เป็นสาเหตุสำคัญของตาบอดอันดับหนึ่งของโลกและมักเกิดกับผู้สูงอายุ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเสื่อมตาม
วัยและมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดต้อกระจก เช่น คอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวาน การขาดสารอาหาร สูบบุหรี่ ยาสเตียรอยด์ รังสี
ยูวี การกระทบกระเทือนหรือบาดเจ็บที่ตา เป็นต้น
วัตถุประสงค์: เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาพยาบาลครอบคลุมองค์รวมและเปรียบเทียบกรณีศึกษา 2 ราย
วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาเปรียบเทียบในผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจก กรณีศึกษา 2 ราย ในหอผู้ป่วยพิเศษสงฆ์ โรงพยาบาลยโสธร
เก็บรวบรวมข้อมูลจากประวัติการตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษาพยาบาล เวชระเบียน การสังเกตอาการ
การสอบถาม การสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยและญาติ ระยะเวลาการศึกษา เดือนธันวาคม 2562 ถึงเดือนมิถุนายน 2563
ผลการศึกษา: พบว่าปัญหาของผู้ป่วยที่เหมือนกัน คือ 1) วิตกกังวลเกี่ยวการผ่าตัด 2) เสี่ยงต่อความไม่พร้อมในการผ่าตัด
3) เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุพลัดตกหกล้มเดินชนสิ่งของเนื่องจากมีภาวะสายตาเลือนราง 4) ปวดตาเนื่องจากมีแผลผ่าตัด
5) เสี่ยงต่อภาวะติดเชื้อภายในลูกตา 6) เสี่ยงต่อภาวะ Hyperglycemia, Hypoglycemia 7) ผู้ป่วยและผู้ดูแลขาดทักษะในการ
ดูแลตนเองเมื่อกลับบ้าน สำหรับปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน กรณีที่ 1 คือ 1) เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลนส์แก้วตา
เทียมเคลื่อน 2) ไม่สามารถดูแลตนเองเมื่อกลับบ้าน ส่วนกรณีที่ 2 มีปัญหาที่แตกต่าง คือ 1) มีภาวะความดันลูกตาสูง 2) เสี่ยง
ต่อภาวะจอประสาทหลุดลอก จากการศึกษาครั้งนี้พบว่าหลังจากให้การพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจกขณะรักษาตัวใน
โรงพยาบาล โดยให้การพยาบาลตามกระบวนการพยาบาลและประยุกต์ใช้ทฤษฎีทางการพยาบาลครอบคลุมองค์รวม การ
วางแผนจำหน่ายแบบ DMETHOD ผู้ป่วยและผู้ดูแลคลายความวิตกกังวล พร้อมผ่าตัดให้ความร่วมมือในการรักษาพยาบาล
ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน สามารถกลับไปสู่สังคมได้ปกติ ได้รับการดูแลช่วยเหลือจากชุมชนและภาคีเครือข่ายสุขภาพเป็น
อย่างดี สามารถปฏิบัติตัวดูแลตนเองได้เหมาะสม
สรุป: ผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจกมีภาวะแทรกซ้อนและสาเหตุที่แตกต่างกัน พยาบาลจำเป็นต้องมีสมรรถนะในการประเมิน การ
วินิจฉัยภาวะเสี่ยงตั้งแต่แรกรับ การร่วมทีมสาขาวิชาชีพในการแก้ไขภาวะแทรกซ้อนที่ถูกต้องและทันเวลาควบคู่กับการใช้แนว
ปฏิบัติการพยาบาลภายใต้หลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อให้การพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผล
ลดอัตราภาวะแทรกซ้อนที่ป้องกันได้

References

ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ตำราจักษุวิทยา:

สำหรับนิสิตแพทย์และแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป.

กรุงเทพฯ: ภาควิชาจักษุวิทยา คณะ

แพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2556.

จิรดา มณีพงษ์. กรณีศึกษา: การพยาบาลองค์

รวมในผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจกที่มีความเสี่ยงสูง

โรงพยาบาลกาฬสินธุ์. วารสารสุขภาพและ

สิ่งแวดล้อมศึกษา 2563; 5(2): 13.

จักรี หิรัญแพทย์. Lens and Cataract

[อินเทอร์เน็ต]. 2557 [เข้าถึงเมื่อ 3 พฤษภาคม

. เข้าถึงได้จาก:

https://www.scribd.com/document/2214

/Lens-and-Cataract

ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์

จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย. จักษุจุฬา. กรุงเทพฯ:

พิมพ์ดี; 2557.

ขวัญตา เกิดชูชื่น, สุจินตา ริมศรีทอง. การ

พยาบาลจักษุวิทยา เล่ม 1. กรุงเทพฯ: ภาควิชา

พยาบาลศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาล

รามาธิบดี; 2540.

จันทร์เพ็ญ สันตวาจา. แนวคิดพื้นฐาน ทฤษฎี

และกระบวนการพยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 7.

กรุงเทพฯ: ธนาเพรส; 2559.

American Diabetes Association. Diagnosis

and Classification of Diabetes Mellitus.

Diabetes Care 2004 Jan; 27 (suppl 1): s5-

doi: 10.2337/diacare.27.2007.s5.

PubMed PMID: 14693921.

จันจิราภรณ์ วิชัย, สายสมร พลดงนอก, กิตติ

ศักดิ์ สวรรยาวิสุทธิ์. ความรู้เรื่องโรคความดัน

โลหิตสูง. ขอนแก่น: หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ

งานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลศรีนครินทร์;

American Diabetes Association.

Classification and Diagnosis of Diabetes:

Standards of Medical Care in Diabetes2020. Diabetes Care 2020 Jan; 43 (Suppl

: S14–31. doi: 10.2337/dc20-S002.

PubMed PMID: 31862745.

เผยแพร่แล้ว

2022-07-01